
The Wheel of Time เป็นซีรีส์แฟนตาซีสุดยิ่งใหญ่ที่สร้างจากนิยายของโรเบิร์ต จอร์แดน และดัดแปลงโดย Amazon Prime Video เรื่องราวของโลกที่หมุนเวียนไปตามโชคชะตา และพลังแห่งเวทมนตร์ที่สามารถใช้ได้เฉพาะผู้หญิง ซีรีส์นี้ได้รับเสียงตอบรับอย่างดีจากแฟนๆ แนวแฟนตาซี และตอนนี้กำลังเดินหน้าสู่ ซีซั่น 3 หากคุณต้องการทบทวนเนื้อหาก่อนดูต่อ นี่คือบทสรุปครบถ้วนของซีซั่น 1-2 ที่จะช่วยให้คุณเข้าใจทุกอย่าง!
ข้อมูลพื้นฐานของซีรีส์
ปีที่ฉาย: ซีซั่น 1 (2021), ซีซั่น 2 (2023), ซีซั่น 3 (2025)
หมวดหมู่: แฟนตาซี / ผจญภัย / ดราม่า
ผู้กำกับ: Uta Briesewitz (ซีซั่น 1), Salli Richardson-Whitfield (ซีซั่น 2), Wayne Yip และอีกหลายคน
ความยาว: ประมาณ 55-65 นาทีต่อตอน
วันเข้าฉาย: ซีซั่น 1 (19 พฤศจิกายน 2021), ซีซั่น 2 (1 กันยายน 2023)
คะแนน IMDb: 7.2/10 (สำหรับซีรีส์โดยรวม)
นักแสดงหลัก
โรซามันด์ ไพค์ (Rosamund Pike) รับบท โมเรน ดาโมดเรด
โจชา สตราดาวสกี (Josha Stradowski) รับบท แรนด์ อัลธอร์
มาร์คัส รูเธอร์ฟอร์ด (Marcus Rutherford) รับบท เพอร์ริน อายบารา
บาร์นีย์ แฮร์ริส / โดนัลล์ ฟินน์ (Barney Harris / Dónal Finn) รับบท แมต คอธอน
แมเดอลีน แมดเดน (Madeleine Madden) รับบท อีไลน์ เทรากอน
โซอี้ ร็อบบินส์ (Zoë Robins) รับบท ไนเนฟ อัลเมียรา
แดเนียล เฮนนีย์ (Daniel Henney) รับบท แลน มันดราโกแรน
สรุปเนื้อเรื่องซีซั่น 1 (Season 1 Recap)
ปูพื้นโลกของ The Wheel of Time
The Wheel of Time เป็นโลกที่เวทมนตร์ถูกควบคุมโดยกลุ่มหญิงสาวที่เรียกว่า Aes Sedai (ไอเอส ซิดาย)
คำทำนายได้กล่าวถึง Dragon Reborn (มังกรกลับชาติมาเกิด) บุคคลที่มีพลังมหาศาลและเป็นผู้กอบกู้หรือทำลายโลก
Dark One เป็นศัตรูตัวฉกาจของโลก ผู้ต้องการปลดปล่อยความมืดเข้าสู่วัฏจักรใหม่
Forsaken คือผู้ติดตามของ Dark One ซึ่งเป็นผู้ใช้พลังเวทที่แข็งแกร่งและมีแผนการซับซ้อน
โมเรน ดาโมดเรด (Moiraine Damodred) สมาชิกของ Aes Sedai เดินทางไปยังหมู่บ้าน Two Rivers เพื่อค้นหา Dragon Reborn
ตัวละครหลักจาก Two Rivers
แรนด์ อัลธอร์ (Rand al’Thor) – ชาวบ้านที่ต่อมาค้นพบว่าเขาคือ Dragon Reborn
ไนเนฟ อัลเมียรา (Nynaeve al’Meara) – มีพลังเวทที่แข็งแกร่งกว่าผู้ใช้เวทคนอื่นๆ และมีความเป็นผู้นำสูง
อีไลน์ เทรากอน (Egwene al’Vere) – มีศักยภาพที่จะเป็น Aes Sedai ที่ยิ่งใหญ่ และมีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลง White Tower
เพอร์ริน อายบารา (Perrin Aybara) – มีความเชื่อมโยงกับหมาป่าและกำลังค้นพบพลังลึกลับของตนเอง
แมต คอธอน (Mat Cauthon) – มีโชคที่เหนือธรรมชาติและพบกริชต้องคำสาปจาก Shadar Logoth ซึ่งส่งผลต่อจิตใจของเขา
แลน มันดราโกแรน (Lan Mandragoran) – ผู้พิทักษ์ของโมเรน และเป็นกษัตริย์ที่สูญเสียบัลลังก์แห่ง Malkier
เหตุการณ์สำคัญในซีซั่น 1
โมเรนพากลุ่มตัวละครออกจาก Two Rivers เพื่อป้องกันพวกเขาจาก Dark One และลูกสมุน Trollocs
แมตถูกครอบงำโดยกริชต้องคำสาป ทำให้ต้องแยกตัวออกจากกลุ่ม และกลายเป็นบุคคลที่อันตราย
เพอร์รินเริ่มตระหนักถึงพลังของตัวเองและความเชื่อมโยงกับหมาป่า
อีไลน์และไนเนฟเดินทางไป White Tower เพื่อฝึกฝนเป็น Aes Sedai และเผชิญหน้ากับการเมืองภายในสถาบัน
แรนด์ค้นพบว่าเขาคือ Dragon Reborn และไปยัง The Eye of the World ต่อสู้กับ Dark One
โมเรนสูญเสียความสามารถในการใช้เวทมนตร์ ซึ่งส่งผลต่อสถานะของเธอในหมู่ Aes Sedai
สรุปเนื้อเรื่องซีซั่น 2 (Season 2 Recap)
สงครามได้เริ่มต้นขึ้น
แรนด์พยายามใช้ชีวิตแบบไม่เปิดเผยตัว แต่ถูกลากกลับเข้าสู่สงครามและการเมืองของโลกเวทมนตร์
ไนเนฟและอีไลน์ฝึกฝนที่ White Tower และต้องผ่านบททดสอบสุดโหดเพื่อพิสูจน์ว่าพวกเธอคู่ควรกับพลังเวท
แมตถูกกักขังโดย Aes Sedai แต่ในที่สุดก็ได้รับ Dagger of Shadar Logoth คืน และต้องเผชิญหน้ากับอดีตของตนเอง
เพอร์รินเดินทางไปยัง Aiel Waste และค้นพบว่าเขาอาจมีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงของ Aiel
เหตุการณ์สำคัญในซีซั่น 2
การรุกรานของ Seanchan Empire ทำให้โลกของพวกเขาตกอยู่ในอันตราย โดยเฉพาะการใช้ Damane (ผู้หญิงที่มีพลังเวทแต่ถูกควบคุม)
โมเรนพยายามกู้คืนพลังเวทของเธอ และต้องเผชิญกับบททดสอบที่ยากลำบาก
Forsaken เริ่มเคลื่อนไหว และมีแผนการซับซ้อนที่เกี่ยวข้องกับแรนด์
แรนด์ยอมรับโชคชะตาของตัวเอง และเตรียมตัวเผชิญหน้ากับศึกใหญ่ที่กำลังจะมาถึง
คำถามสำคัญที่ค้างคาในซีซั่น 3 (What’s Next in Season 3?)
- แรนด์จะสามารถควบคุมพลังของตัวเองได้หรือไม่?
- อิทธิพลของ Seanchan Empire จะส่งผลต่อโลกมากแค่ไหน?
- โมเรนจะสามารถฟื้นพลังเวทของเธอได้หรือไม่?
- Forsaken จะมีบทบาทสำคัญในการทำลายล้างหรือสร้างยุคใหม่?
- แมตจะเลือกเดินบนเส้นทางแห่งโชคชะตาหรือจะต่อต้านมัน?
- เพอร์รินและสายสัมพันธ์กับหมาป่าจะนำไปสู่พลังที่ยิ่งใหญ่ขึ้นหรือไม่?
บทสรุป
ซีซั่น 1-2 ของ The Wheel of Time เป็นการปูพื้นโลกของซีรีส์ พร้อมแสดงให้เห็นการเติบโตของตัวละครหลักจากหมู่บ้านเล็ก ๆ สู่การเป็นบุคคลสำคัญในศึกระหว่างแสงสว่างและความมืด ซีซั่น 3 จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่กำหนดชะตากรรมของทุกตัวละคร และหากคุณอ่านบทความนี้จบแล้ว คุณสามารถดูต่อได้เลยโดยไม่ต้องย้อนกลับไปทบทวน!
อ่านรีวิวซีซั่น 3 ได้ที่นี่
รูปภาพเพิ่มเติมสำหรับซีรีส์ The Wheel of Time







