
หากคุณเป็นแฟนซีรีส์เกาหลีมาตั้งแต่ยุคแรก ๆ ชื่อของ “จูจีฮุน” (Ju Ji-hoon) คงไม่ใช่คนแปลกหน้า เพราะเขาคือเจ้าชายในฝันแห่ง Princess Hours ซีรีส์รักวัยรุ่นสุดคลาสสิกที่เป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจของใครหลายคนในการติดตามซีรีส์เกาหลีมาจนถึงวันนี้ แต่เส้นทางของจูจีฮุนกลับไม่ได้หยุดอยู่ที่ภาพของ “เจ้าชายรูปงาม” เท่านั้น เพราะตลอดหลายปีที่ผ่านมา เขาได้พิสูจน์ตัวเองในฐานะ “นักแสดงคุณภาพ” ที่เลือกบทบาทท้าทาย และสร้างผลงานอันโดดเด่นอย่างต่อเนื่อง

ประวัติคร่าว ๆ ของจูจีฮุน
ชื่อจริง: จู ยังฮุน (Joo Young-hoon)
วันเกิด: 16 พฤษภาคม 1982
ส่วนสูง: 187 ซม.
การศึกษา: Kyonggi University สาขาการแสดงและภาพยนตร์
จุดเริ่มต้นในวงการ: เริ่มจากการเป็นนายแบบแฟชั่น ก่อนจะเข้าสู่วงการซีรีส์ด้วย Princess Hours ในปี 2006
ผลงานเด่นที่ไม่ควรพลาด
1. Princess Hours (2006) ผลงานแจ้งเกิดในบท “เจ้าชายอีชิน” ผู้เงียบขรึมแต่แฝงไปด้วยความอบอุ่น เป็นตัวละครที่ทำให้จูจีฮุนกลายเป็นพระเอกขวัญใจแฟนคลับทั้งในและต่างประเทศ
2. Antique (2008) หนังที่แสดงความกล้าในฐานะนักแสดง กับบทบาทเจ้าของร้านเค้กที่มีอดีตปริศนาและเสน่ห์ล้นเหลือ หนังเรื่องนี้ได้รับความสนใจจากสื่อและนักวิจารณ์ในระดับนานาชาติ
3. Along with the Gods: The Two Worlds & The Last 49 Days (2017–2018) จูจีฮุนพลิกคาแรกเตอร์มารับบท “เทพผู้พิพากษา” ที่มาพร้อมภาพลักษณ์เท่ ลึกลับ และน่าเกรงขาม เป็นหนังบล็อกบัสเตอร์เกาหลีที่สร้างปรากฏการณ์รายได้สูงสุดอันดับต้น ๆ ของประเทศ
4. Kingdom (2019–2021) ซีรีส์ซอมบี้ย้อนยุคจาก Netflix ที่ทำให้ชื่อของเขากลับมาพุ่งแรงอีกครั้ง กับบทองค์รัชทายาทที่ต้องต่อสู้กับทั้งอำนาจการเมืองและโรคระบาดเหนือธรรมชาติ
5. Gentleman (2022) / Jirisan (2021) / Project Silence (2024) บทที่เขารับในช่วงหลังมีความหลากหลายมากขึ้น ทั้งสายแอ็กชัน สืบสวน และไซไฟ-เอาชีวิตรอด กลายเป็นนักแสดงที่โปรดักชันใหญ่ไว้วางใจให้เป็นตัวหลักอย่างต่อเนื่อง
6. ชั่วโมงโกงความตาย (The Trauma Code: Heroes on Call) ซีรีส์แพทย์ที่เล่าเรื่องราวนาทีชีวิตของคนไข้ โดยจูจีฮุนรับบทเป็นแพทย์ฉุกเฉินมือฉมัง บอกเลยว่าเรื่องนี้ทั้งมันส์ทั้งเข้มข้น ซีรีส์เรื่องนี้ถูกฉายบนแพลตฟอร์ม Netflix ในปี 2025 และเป็นที่พูดถึงกันอย่างมาก เรียกได้ว่ากระแสตอบรับดีสุดๆ

ลายเซ็นการแสดงของจูจีฮุน
สิ่งที่ทำให้จูจีฮุนโดดเด่นไม่ใช่แค่รูปลักษณ์ แต่คือ “น้ำหนักของสายตาและการสื่ออารมณ์แบบไม่ต้องพูดมาก” เขาคือหนึ่งในนักแสดงที่ถ่ายทอดอารมณ์ได้ลึกซึ้งแม้จะมีบทพูดเพียงไม่กี่ประโยค คาแรกเตอร์ที่เขารับมักจะมีความเป็น “คนเงียบลึก” หรือ “คนที่มีบาดแผลในใจ” ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาทำได้ดีมาก
เขาเลือกบทอย่างไร?
หนึ่งในสิ่งที่น่าสนใจคือ… จูจีฮุนไม่ได้ยึดติดกับภาพลักษณ์ใด ๆ เลย เขาสามารถเป็นเจ้าชาย, คนบ้า, คนตาย, นักฆ่า, นักสืบ หรือแม้แต่ผี! นั่นเพราะเขามองงานแสดงในฐานะ “ศิลปะที่ท้าทาย” มากกว่าเป็นเครื่องมือสร้างชื่อเสียง
เขายอมถอยจากวงการในช่วงที่มีข่าวฉาวเมื่อสิบกว่าปีก่อน และกลับมาใหม่ด้วยท่าทีสงบนิ่ง พร้อมทักษะการแสดงที่แข็งแรงขึ้น ทำให้แฟนคลับเห็นว่าเขาเติบโตทั้งในฐานะคนและในฐานะนักแสดง
ความนิยมและภาพลักษณ์ในหมู่แฟนคลับ
จูจีฮุนมีแฟนหลากหลายวัย ไม่ว่าจะเป็นแฟนเก่ายุค Princess Hours หรือแฟนใหม่ที่ตามมาจาก Kingdom หรือ Along with the Gods ด้วยลุคสุขุม มีเสน่ห์แบบ “อุ่นลึก” (cool + soft) เขาจึงกลายเป็นภาพจำของ “พระเอกเกาหลีที่ไม่จำเป็นต้องพูดเยอะ แต่มีอะไรบางอย่างให้จับตามอง”
อยากดูจูจีฮุนเริ่มจากเรื่องไหนดี?
ถ้าคุณไม่เคยดูเขาเลยมาก่อน ลองเริ่มจาก…
Kingdom (Netflix) – สนุก ลุ้น และเต็มไปด้วยพลังของการแสดง
Along with the Gods – ภาพสวย คาแรกเตอร์เท่ และบทลึก
Gentleman / Project Silence – สำหรับคนชอบแนวสืบสวน/เอาตัวรอด
Princess Hours – ย้อนวัยไปสัมผัสบรรยากาศรักวัยรุ่นระดับตำนาน
บทส่งท้าย
จูจีฮุนอาจจะไม่ใช่ชื่อที่เป็นไวรัลตลอดเวลา แต่เขาคือหนึ่งในนักแสดงที่อยู่ยืนยาวอย่างมั่นคงในวงการ เขาเลือกงานอย่างมีวิสัยทัศน์ แสดงด้วยความเข้าใจ ไม่ตามกระแส และยังคงสร้างบทบาทที่ผู้ชมพูดถึงได้เสมอ
ถ้าคุณมองหานักแสดงที่ “ไม่ต้องเป็นกระแส แต่มีคุณภาพเต็มเปี่ยม” จูจีฮุนคือชื่อที่ควรค่าแก่การจดจำ