
ข้อมูลหนัง
- ชื่อหนัง: Mercy for None (광장) ดับแค้นไร้ปรานี
- ปีที่ฉาย: 2025
- หมวดหมู่: แอ็กชัน, นัวร์,
- ดราม่าแก๊งสเตอร์
- ผู้กำกับ: ชเว ซองอึน (Choi Sung-eun)
- ความยาว: 7 ตอน (ตอนละ 37–49 นาที)
- วันเข้าฉาย: 6 มิถุนายน 2025 (Netflix)
- คะแนน IMDb: ยังไม่ปรากฎข้อมูล
ตัวอย่าง
เรื่องย่อ
เมื่ออดีตอันโหดร้ายไม่มีวันจางหาย นัม กีจุน อดีตสมาชิกแก๊งมาเฟียผู้เคยยอมทำลายขาตัวเองเพื่อปกป้องน้องชายที่รัก กลับมาใช้ชีวิตอย่างเงียบสงบในฐานะคนธรรมดาอีกครั้ง ทว่าความสงบที่เขาสร้างไว้ตลอด 11 ปี พังทลายลงในชั่วขณะเมื่อ นัม กีซอก น้องชายของเขาถูกฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยม
การกลับมาสู่โลกใต้ดินที่เขาเคยหันหลังให้ ไม่ใช่เพียงเพราะความแค้น แต่คือการไล่ล่าความจริงที่ถูกบิดเบือน — ในโลกที่ศีลธรรมไม่ใช่คำตอบ และความเมตตาคือความอ่อนแอ กีจุนต้องเผชิญหน้ากับทั้งศัตรูที่รู้จักดี และเงาของตัวเองในอดีตที่ยังตามหลอกหลอน
เมื่อเส้นแบ่งระหว่าง “ผู้ล่า” และ “เหยื่อ” เริ่มพร่าเลือน Mercy for None พาเราเข้าสู่สงครามของจิตใจ ที่การให้อภัยอาจเป็นสิ่งหายากยิ่งกว่าความยุติธรรม
นักแสดง
โซ จีซอบ (So Ji-sub) รับบท นัม กีจุน
ฮอ จุนโฮ (Heo Joon-ho) รับบท ลี จูอุน
อัน กิลกัง (Ahn Gil-kang) รับบท กู บงซาน
กง มยอง (Gong Myung) รับบท กู จุนโม
ชู ยองอู (Choo Young-woo) รับบท ลี กึมซอน
โจ ฮันชอล (Jo Han-chul) รับบท ชเว ซองชอล
อี บอมซู (Lee Beom-soo) รับบท ชิม ซองวอน
อี จุนฮยอก (Lee Jun-hyuk) รับบท นัม กีซอก


รูปภาพจาก: Soompi
รีวิวซีรีส์ Mercy for None (2025) การกลับมาของโซ จีซอบ กับโลกอาชญากรรมที่ไร้คนอ่อนแอ
Mercy for None หรือชื่อเกาหลี 광장 เป็นซีรีส์แนวแอ็กชันนัวร์จากเกาหลีใต้ที่เปิดตัวบน Netflix เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2025 โดยดัดแปลงจากเว็บตูนชื่อดัง Plaza Wars เรื่องราวของอดีตสมาชิกแก๊งที่กลับเข้าสู่โลกอาชญากรรมเพื่อล้างแค้นให้กับน้องชายที่ถูกฆาตกรรม ซีรีส์นี้ได้รับการตอบรับที่หลากหลายจากนักวิจารณ์และผู้ชม โดยมีการชื่นชมในด้านการแสดงและฉากแอ็กชัน แต่ก็มีการวิจารณ์ในเรื่องของโครงเรื่องและการดำเนินเรื่องที่ซับซ้อน
1. การแสดงของโซ จีซอบในบทนำ
โซ จีซอบ สวมบทบาท นัม กีจุน ได้อย่างเข้าถึง เขาแสดงความเย็นชาและอดกลั้นได้อย่างแม่นยำ ซึ่งแตกต่างจากการตีความบทแอ็กชันทั่วไปที่มักใช้ความรุนแรงนำหน้า ในเรื่องนี้ โซ จีซอบเลือกใช้ “ความเงียบ” เป็นพลัง ตัวละครของเขาเหมือนภูเขานิ่งที่มีไฟลุกอยู่ภายใน ฉากการนั่งมองรอยแผลเก่า หรือการเดินเข้าไปในซอยมืดโดยไม่ถืออาวุธ กลายเป็นซีนที่ตรึงคนดูได้มากกว่าฉากบู๊
นอกจากนี้ การกลับมารับบทในซีรีส์แอ็กชันนัวร์หลังห่างหายจากแนวนี้ไปกว่า 10 ปี ยังตอกย้ำว่าเขายังเป็นหนึ่งในนักแสดงชายสาย “ขรึมลึก” ที่ตีบทแตกในแบบไม่ต้องใช้คำพูดเยอะ
2. ฉากแอ็กชันที่ออกแบบเพื่อ “มนุษย์ที่มีรอยร้าว” ไม่ใช่ฮีโร่
Mercy for None ไม่ใช่ซีรีส์แอ็กชันที่เต็มไปด้วยการระเบิดหรือความหวือหวาแบบไร้เหตุผล ฉากต่อสู้ในเรื่องมีจังหวะ “หยุดหายใจ” และเน้นการปะทะแบบใกล้ตัว มีทั้งความโหด หยาบกร้าน และบาดเจ็บจริง ช่วงท้ายของตอนที่ 4 และตอนที่ 6 คือฉากไคลแมกซ์ที่ทำให้ผู้ชมหลายคนยกให้เป็น “ที่สุดของฉากสู้ตัวต่อตัวในซีรีส์เกาหลีปีนี้”
ที่สำคัญ ฉากบู๊เหล่านี้ไม่ได้สร้างมาเพื่อความเท่ แต่มันสะท้อน “การเอาตัวรอด” ของตัวละครที่ไม่สมบูรณ์แบบ ไม่ใช่ยอดมนุษย์ และมีบาดแผลทั้งกายและใจ
3. บรรยากาศนัวร์ที่สมจริงและสมบูรณ์
ซีรีส์ใช้โทนภาพหม่น ซีเปีย น้ำตาลเข้ม และมุมกล้องที่เอียงบ่อยครั้ง เพื่อสื่อถึงความบิดเบี้ยวของโลกใต้ดินในเมืองหลวง ทั้งยังใช้เสียงประกอบแนว ambient dark jazz ช่วยเสริมบรรยากาศนัวร์ได้เป็นอย่างดีผู้กำกับ ชเว ซองอึน ยังแสดงความเข้าใจโลกอาชญากรรมในเกาหลีได้อย่างลึกซึ้ง โดยการพาผู้ชมไล่ตามเบาะแสจากซอยหลังโรงงาน, คาราโอเกะเถื่อน, ไปจนถึงศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพของอดีตนักเลง
4. ธีมครอบครัวที่ซ้อนอยู่ในโลกแห่งความรุนแรง
แม้จะมีโครงสร้างแบบซีรีส์อาชญากรรมเต็มตัว แต่สิ่งที่แทรกอยู่ลึกๆ คือความสัมพันธ์ของพี่น้อง — ความรัก ความผิดพลาด และความรู้สึกผิด ตัวละครหลักหลายคนมี “เงาอดีต” เป็นคนในครอบครัวที่เคยสูญเสียหรือทรยศกัน
การที่กีจุนกลับเข้ามาในโลกนี้เพราะน้องชายถูกฆ่า ไม่ใช่เพียงประเด็น “ล้างแค้น” แบบผิวเผิน แต่เป็นการ “สะสาง” กับอดีตทั้งหมด ทั้งที่เขาทิ้งไว้ และที่เขาแบกรับมาตลอด
ข้อสังเกตและคำวิจารณ์
1. โครงเรื่องที่ซับซ้อนและการดำเนินเรื่องที่ช้า
แม้จะมีฉากแอ็กชันที่น่าตื่นเต้น แต่โครงเรื่องของซีรีส์ถูกวิจารณ์ว่าอาจซับซ้อนเกินไปสำหรับผู้ชมบางกลุ่ม การดำเนินเรื่องในบางช่วงอาจรู้สึกว่าช้าและยืดเยื้อ ทำให้ความน่าติดตามลดลง
2. การพัฒนาตัวละครรองที่ไม่ลึกซึ้ง
ตัวละครรองในเรื่อง เช่น สมาชิกแก๊งและครอบครัวของตัวละครหลัก มีการพัฒนาและนำเสนอที่ไม่ลึกซึ้งเท่าที่ควร ทำให้ผู้ชมอาจไม่สามารถเชื่อมโยงหรือเข้าใจแรงจูงใจของตัวละครเหล่านี้ได้อย่างเต็มที่
สรุปคะแนนจากแหล่งวิจารณ์
Rotten Tomatoes: 3.5/5 ดาว
South China Morning Post: 2.5/5 ดาว
DMTalkies: วิจารณ์ว่าเป็นซีรีส์ที่มีฉากแอ็กชันที่ดี แต่โครงเรื่องซับซ้อนเกินไป
บทสรุป
Mercy for None เป็นซีรีส์ที่มีจุดเด่นในด้านการแสดงของนักแสดงนำและฉากแอ็กชันที่เข้มข้น แต่ก็มีข้อสังเกตในเรื่องของโครงเรื่องที่ซับซ้อนและการพัฒนาตัวละครรองที่ไม่ลึกซึ้ง เหมาะสำหรับผู้ชมที่ชื่นชอบซีรีส์แนวแอ็กชันนัวร์ที่มีบรรยากาศมืดหม่นและเนื้อหาที่เข้มข้น