รีวิวหนัง Lilo & Stitch (2025) หนังที่อาจทำให้คุณน้ำตาคลอได้แบบไม่รู้ตัว

รีวิวหนัง Lilo & Stitch (2025) หนังที่อาจทำให้คุณน้ำตาคลอได้แบบไม่รู้ตัว

ข้อมูลหนัง

  • ชื่อหนัง:  Lilo & Stitch ลิโล่แอนด์สติทช์ 
  • ปีที่ฉาย: 2025
  • หมวดหมู่: แฟนตาซี / ผจญภัย / ครอบครัว
  • ผู้กำกับ: ดีน เฟลชเชอร์-แคมป์
  • ความยาว: ประมาณ 1 ชั่วโมง 45 นาที
  • วันเข้าฉาย: 10 พฤษภาคม 2025
  • คะแนน IMDb: 7.2/10 (อัปเดตล่าสุด)

ตัวอย่าง

เรื่องย่อ

บนเกาะคาไวอันเงียบสงบของฮาวาย เด็กหญิงลิโล ผู้แปลกแยกและโดดเดี่ยว ต้องพยายามใช้ชีวิตร่วมกับพี่สาวหลังสูญเสียครอบครัว เธอปรารถนาจะมี “เพื่อนแท้” และสิ่งที่เธอพบในศูนย์พักพิงสัตว์ก็คือสิ่งมีชีวิตประหลาดจากต่างดาวชื่อ “สติทช์”

แต่สิ่งที่ลิโลไม่รู้คือ สติทช์ไม่ได้เป็นเพียงสัตว์เลี้ยงน่ารัก เขาคือสิ่งมีชีวิตทดลองที่ถูกสร้างมาเพื่อทำลายล้างจักรวาล และบัดนี้หน่วยล่าจากอวกาศก็ตามรอยมายังโลก ขณะที่ความวุ่นวายเริ่มก่อตัว ความผูกพันระหว่างเด็กหญิงกับเอเลียนป่วนโลกกลับค่อย ๆ เติบโตเป็นสิ่งล้ำค่าที่ใครก็ทำลายไม่ได้

นักแสดงและบทบาทใน Lilo & Stitch (2025)

  • Maia Kealoha รับบท Lilo Pelekai
    → เด็กหญิงชาวฮาวายวัย 6 ขวบ ผู้โดดเดี่ยวแต่มีจิตใจอบอุ่น เธอรับเลี้ยงสิ่งมีชีวิตประหลาดที่กลายมาเป็นครอบครัวใหม่ของเธอ

  • Sydney Agudong รับบท Nani Pelekai
    → พี่สาวของลิโล ผู้พยายามทำทุกทางเพื่อดูแลน้องสาวเพียงลำพังหลังสูญเสียพ่อแม่

  • Chris Sanders ให้เสียงพากย์ Stitch / Experiment 626
    → สิ่งมีชีวิตจากต่างดาวที่ถูกออกแบบมาเพื่อการทำลายล้าง แต่ได้เรียนรู้คุณค่าของความรักและครอบครัว
    หมายเหตุ: คริส แซนเดอร์ส เป็นผู้ให้เสียง Stitch มาตั้งแต่ฉบับแอนิเมชันต้นฉบับปี 2002 และกลับมาพากย์บทนี้อีกครั้งในเวอร์ชันคนแสดง

  • Zach Galifianakis รับบท Dr. Jumba Jookiba
    → นักวิทยาศาสตร์ต่างดาวผู้สร้าง Stitch ด้วยการทดลองพันธุกรรมผิดกฎหมาย

  • Billy Magnussen รับบท Pleakley
    → เจ้าหน้าที่จาก Galactic Federation ที่ถูกส่งมาร่วมภารกิจจับ Stitch กลับไป

  • Courtney B. Vance รับบท Cobra Bubbles
    → เจ้าหน้าที่สังคมสงเคราะห์ผู้ดูแลกรณีของลิโลและนานิ แต่เบื้องหลังมีอดีตลับซ่อนอยู่

รีวิวหนัง Lilo & Stitch (2025) หนังที่อาจทำให้คุณน้ำตาคลอได้แบบไม่รู้ตัว
รีวิวหนัง Lilo & Stitch (2025) หนังที่อาจทำให้คุณน้ำตาคลอได้แบบไม่รู้ตัว

รีวิวหนัง Lilo & Stitch (2025) หนังที่อาจทำให้คุณน้ำตาคลอได้แบบไม่รู้ตัว

1. คงหัวใจเดิม เพิ่มมิติใหม่ด้วยความจริงของโลกมนุษย์

บทของเวอร์ชัน 2025 ยังคงโครงเรื่องคลาสสิกไว้ครบถ้วน แต่เติมเนื้อหาใหม่ที่ทำให้เรื่องราวมี “น้ำหนัก” ทางอารมณ์มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นประเด็นความยากลำบากของนานิในการดูแลลิโลเพียงลำพัง หรือการสำรวจความเปราะบางของครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์แบบ

จุดที่น่าชื่นชมคือ การไม่ลดทอนความเป็นหนังครอบครัวเพื่อเอาใจผู้ชมเด็กเท่านั้น แต่กล้าพูดถึงความโดดเดี่ยว ความเสียใจ และ “การยอมรับตัวตนของกันและกัน” ในแบบที่ทั้งเด็กและผู้ใหญ่เข้าถึงได้

2. เคมีของลิโลและสติทช์ยังน่ารักไม่เปลี่ยน

ไมอา เคอาโลฮา ในบทลิโล ถ่ายทอดความซน ดื้อ และเปราะบางได้อย่างเป็นธรรมชาติ ราวกับเป็นลิโลจริง ๆ ในชีวิตจริง ขณะที่ สติทช์ แม้จะเปลี่ยนมาเป็น CGI แต่ก็ยังคงคาแร็กเตอร์จอมป่วน น่ารัก และเต็มไปด้วยอารมณ์เหมือนต้นฉบับ

นานิ (รับบทโดย ซิดนีย์ อกูดง) มีความโดดเด่นในฐานะพี่สาวที่ต้องรับผิดชอบเกินวัย หนังให้พื้นที่กับเธอมากขึ้น ทำให้ผู้ชมเข้าใจว่าเบื้องหลังความหงุดหงิดของเธอคือความรักที่อยากปกป้องน้องสาวสุดหัวใจ

3. เปรียบเทียบกับต้นฉบับ

แม้บางฉากถูกตัดหรือเปลี่ยนไปเพื่อให้เหมาะกับไลฟ์แอ็กชัน การแสดงสดไม่สามารถแทนที่ความยืดหยุ่นของแอนิเมชันได้ทั้งหมด แต่การเปลี่ยนผ่านนี้ก็มีเสน่ห์ของมันเอง

สิ่งที่หายไปบ้างคือ “ความแฟนตาซีจัดเต็ม” และมุกฮา ๆ แบบแอนิเมชันยุค 2000 แต่สิ่งที่เข้ามาแทนคือความอบอุ่นจริงใจ และเคมีของนักแสดงที่ทำให้ผู้ชม “เชื่อ” ว่าโอฮานาคือพลังแห่งรักที่ยิ่งใหญ่

4. งานสร้าง & เทคนิคภาพ: CGI กลมกลืน สติทช์ดูมีชีวิตมากกว่าที่คิด

ทีมสร้างสามารถทำให้สติทช์ดูน่าเชื่อได้จริง ทั้งในด้านรูปลักษณ์และพฤติกรรม โดยเฉพาะฉากแอ็กชันบนพื้นโลกที่มีความสมจริงและสมดุลกับความเป็นหนังเด็ก การออกแบบฉากในฮาวายก็ทำให้บรรยากาศดูละมุนและมีเสน่ห์อย่างเป็นธรรมชาติ

กระแสตอบรับ

IMDb ให้คะแนนที่ 7.2/10 (อัปเดต ณ วันที่ 23 พฤษภาคม 2568) ส่วนในเว็บไซต์รีวิวภาพยนตร์หลายสำนักชื่นชมด้านการตีความใหม่ที่ไม่ทิ้งหัวใจของต้นฉบับ แม้แฟนบางกลุ่มจะยังรู้สึกว่าแอนิเมชันมีเสน่ห์เฉพาะตัวที่ไลฟ์แอ็กชันทดแทนไม่ได้ แต่ผู้ชมรุ่นใหม่และครอบครัวต่างให้คำชมว่านี่คือหนัง “ที่ทั้งหัวเราะและซึ้งในคราวเดียวกัน”

บทสรุป

Lilo & Stitch (2025) เป็นหนังครอบครัวที่ไม่ใช่แค่รีเมกเพื่อขายความ懷เก่า แต่กล้าเล่าเรื่องความรักและความเจ็บปวดผ่านสายตาของเด็กกับเอเลียนได้อย่างน่าทึ่ง

มันอาจไม่ใช่หนังที่สมบูรณ์แบบสำหรับทุกคน แต่คือหนังที่ “พูดกับหัวใจ” และตอกย้ำว่า โอฮานา… แปลว่าไม่มีใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง ❤️

ลลิน อัครเศรษฐ์

ลลิน อัครเศรษฐ์

ผู้เขียน

Scroll to Top