
ข้อมูลซีรีส์
ชื่อเรื่อง: Bet (โคตรเซียนโรงเรียนพนัน)
ปีที่ออกอากาศ: 2025
ประเภท: ดราม่า / จิตวิทยา / โรงเรียน / ระทึกขวัญ
ผู้สร้าง: ไซมอน แบร์รี่ (Simon Barry)
ผู้กำกับ: แจ็กกี้ โกลด์ (Jacquie Gould), เคร็ก วอลเลซ (Craig Wallace), จอยซ์ หว่อง (Joyce Wong)
จำนวนตอน: 10 ตอน
ความยาว: ประมาณ 50 นาทีต่อตอน
วันออกอากาศ: 15 พฤษภาคม 2025
ช่องทางการรับชม: Netflix
คะแนน IMDb: ยังไม่มีข้อมูล
ตัวอย่าง
เรื่องย่อ
Bet เป็นซีรีส์ที่ดัดแปลงจากมังงะชื่อดังของญี่ปุ่นเรื่อง Kakegurui โดยเล่าเรื่องราวของ “ยูเมโกะ จาบามิ” นักเรียนสาวปริศนาจากญี่ปุ่นที่ย้ายเข้ามาเรียนในโรงเรียนประจำสุดหรูระดับโลก ซึ่งที่นี่การพนันเป็นเครื่องมือในการกำหนดลำดับชั้นและอำนาจภายในโรงเรียน ยูเมโกะใช้ทักษะการพนันอันยอดเยี่ยมของเธอท้าทายสภานักเรียนและระบบที่ไม่เป็นธรรม ขณะเดียวกันเธอก็มีภารกิจลับในการล้างแค้นที่อาจเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งในโรงเรียนนี้
นักแสดง
มิกุ มาร์ติโน (Miku Martineau) รับบท ยูเมโกะ จาบามิ
อวิเวีย มองกิลโล (Aviva Mongillo) รับบท แมรี่ ซาโอโตเมะ
แอนเวน โอดริสคอลล์ (Anwen O’Driscoll) รับบท คิราริ โมโมบามิ
อเล็กซ์ ฮุก (Alex Hook) รับบท ซายากะ อิการาชิ
คลารา อเล็กซานโดรวา (Clara Alexandrova) รับบท มิโดริ อิคิชิมะ
ฮันเตอร์ คาร์ดินัล (Hunter Cardinal) รับบท ริวตะ ซึซึอิ


รีวิวซีรีส์ Bet (2025) โคตรเซียนโรงเรียนพนัน – เมื่อการพนันกลายเป็นตัวจัดลำดับชั้นในโรงเรียน
1. การแสดงของนักแสดงนำ
หนึ่งในจุดแข็งของ Bet คือการแคสต์นักแสดงที่เหมาะสมกับตัวละครจากต้นฉบับ โดยเฉพาะ มิกุ มาร์ติโน (Miku Martineau) ที่รับบทเป็น “ยูเมโกะ จาบามิ” ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่ลอกเลียนคาแรกเตอร์แปลกประหลาดของเวอร์ชันญี่ปุ่นมาเท่านั้น แต่เธอยังสามารถแสดงพลังความลุ่มลึกของตัวละครได้แบบไม่ต้องพึ่ง “การโอเวอร์แอ็กติ้ง” อย่างในอนิเมะ เธอทำให้ยูเมโกะดูน่าค้นหา มีเสน่ห์ และน่าเกรงขามในเวลาเดียวกัน
นักแสดงสมทบอย่าง อวิเวีย มองกิลโล (Aviva Mongillo) ที่รับบทเป็น “แมรี่ ซาโอโตเมะ” ก็เป็นอีกหนึ่งคนที่น่าจับตามอง เพราะเธอสามารถเปลี่ยนจากภาพของเด็กสาวธรรมดาสู่คนที่หลงใหลในอำนาจจากการพนันได้อย่างเป็นธรรมชาติ โดยไม่ดูฝืนหรือประดิษฐ์ ในขณะที่ แอนเวน โอดริสคอลล์ ในบท “คิราริ โมโมบามิ” ผู้นำสภานักเรียน ก็ถ่ายทอดบรรยากาศความกดดันและอำนาจล่องลอยรอบตัวได้อย่างเยือกเย็นจนน่าขนลุก
2. บทและการเล่าเรื่อง
สำหรับคนที่เคยดู Kakegurui มาก่อน อาจรู้สึกว่า Bet ไม่ได้บ้าแบบต้นฉบับ แต่กลับได้อารมณ์ของ “เกมที่มีเดิมพันสูง” แบบจริงจังมากกว่า บทในเวอร์ชันนี้ปรับให้เรื่องมีโทนเข้มข้นแบบซีรีส์วัยรุ่นฝรั่งอย่าง Elite หรือ Gossip Girl ผสมกับบรรยากาศเกมอันตรายแบบ Squid Game การดัดแปลงจากเกมพนันสุดโต่งในมังงะ มาสู่เกมที่ดูสมจริงและมีจิตวิทยาแบบคนจริง ๆ เล่นกัน ทำให้เนื้อเรื่องดูน่าเชื่อถือมากขึ้นในโลกจริง
ตัวละครแต่ละคนจะมี “แรงจูงใจ” ที่ชัดเจนว่าทำไมถึงเข้ามาเล่นเกมพนัน ตั้งแต่เรื่องเงิน ชื่อเสียง การแก้แค้น ไปจนถึงการดิ้นรนทางชนชั้น ซึ่งการเขียนบททำให้ตัวละครหลายตัวดูมีเลือดเนื้อ และผู้ชมรู้สึกเข้าใจแม้พวกเขาจะ “ร้าย” หรือ “คลั่ง”
3. งานภาพและโปรดักชัน
งานภาพของซีรีส์มีความประณีตและมีเอกลักษณ์ โดยเน้นโทนเข้ม สีทอง-ดำ และการจัดแสงที่ชวนให้นึกถึงสไตล์หนัง neo-noir ผสมความหรูหราแบบไฮโซในโรงเรียนเอกชนสุดหรู แต่ละฉากพนันได้รับการจัดฉากอย่างพิถีพิถัน ทั้งในแง่องค์ประกอบศิลป์ แสงเงา ไปจนถึงดนตรีประกอบที่ช่วยเร่งเร้าอารมณ์
การเลือกใช้สถานที่จริงเป็นโรงเรียนกึ่งมหาวิทยาลัยที่มีความเป็นทางการแบบอังกฤษผสมญี่ปุ่น ยิ่งช่วยเสริมให้เรื่องดูมีความ “ข้ามวัฒนธรรม” และเปิดประตูสู่ผู้ชมต่างประเทศได้ดี นอกจากนี้ การออกแบบเกมแต่ละเกมในเรื่องก็มีการคิดเชิงกลยุทธ์และดึงหลักจิตวิทยามาใช้ ไม่ใช่แค่การโชคดีแบบโยนเหรียญ แต่เป็นการหลอก ลวง วางกับดักในเชิงจิตใจ ซึ่งทำให้แต่ละเกมยิ่งดูน่าสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆ
กระแสตอบรับ BET โคตรเซียนโรงเรียนพนัน
หลังจากออกอากาศ ซีรีส์ Bet ได้รับเสียงชื่นชมจากผู้ชมทั่วโลก โดยเฉพาะการแสดงของนักแสดงนำและการเล่าเรื่องที่เข้มข้น อย่างไรก็ตาม บางส่วนของผู้ชมที่เป็นแฟนของต้นฉบับอาจรู้สึกว่าการปรับเปลี่ยนบางอย่างทำให้เสน่ห์ของต้นฉบับลดลง
เปรียบเทียบ BET (Live Action) กับ Kakegurui (อนิเมะ) – ความบ้า vs ความสมจริง
แม้ BET จะอิงโครงสร้างหลักจากมังงะและอนิเมะเรื่อง Kakegurui อย่างชัดเจน แต่ตัวซีรีส์ Live Action เวอร์ชัน Netflix กลับเลือกปรับ “โทน” และ “จังหวะการเล่าเรื่อง” ให้เหมาะกับผู้ชมตะวันตกมากขึ้น ในขณะที่เวอร์ชันอนิเมะมีเอกลักษณ์โดดเด่นด้วยความเว่อร์วัง บ้าคลั่ง และการแสดงออกทางสีหน้าแบบสุดโต่ง (over-the-top expressions) ซึ่งเป็นลายเซ็นของอนิเมะแนวจิตวิทยาญี่ปุ่น
BET กลับเลือกทางที่ “ขึงขัง” และ “ดิบ” มากกว่า ตัวเกมการพนันถูกออกแบบให้ดูมีเหตุผล ใช้กลยุทธ์และจิตวิทยาเป็นหลักมากกว่าการพึ่งพาโชคหรือการหักมุมแบบเวอร์วัง ผลลัพธ์คือเรื่องราวที่เข้าถึงง่ายขึ้นสำหรับผู้ชมวงกว้าง แต่ในขณะเดียวกัน ก็แลกมากับความบันเทิงในแบบ ‘คลั่งจัดเต็ม’ ที่แฟนแอนิเมะบางคนหลงรัก
นอกจากนี้ ตัวละครในเวอร์ชัน BET ยังมีแบ็คกราวด์ที่ชัดขึ้น มีมิติด้านความรู้สึกมากกว่าเวอร์ชันอนิเมะที่มักเน้นความสุดโต่งของแต่ละคนอย่างฉูดฉาด แม้จะลดทอนความ “แปลกประหลาด” ลง แต่กลับเพิ่มความ “มนุษย์” และความ “ลึก” เข้ามาแทน
กล่าวโดยสรุป หาก Kakegurui คือเวทีแสดงพฤติกรรมสุดขั้วของมนุษย์ภายใต้แรงกดดันจากเกมเดิมพัน BET ก็เป็นเวอร์ชันที่พยายามจะตั้งคำถามว่า “ทำไมคนเราถึงเดิมพันชีวิต?” — และมันก็ทำได้ดีในแบบของตัวเอง
ใครที่อาจชอบเรื่องนี้
ผู้ที่ชื่นชอบซีรีส์แนวดราม่าจิตวิทยาและเกมการพนัน
แฟน ๆ ของมังงะและอนิเมะเรื่อง Kakegurui
ผู้ที่สนใจเรื่องราวที่มีการต่อสู้ทางจิตวิทยาและการท้าทายอำนาจ
ผู้ที่มองหาซีรีส์ที่มีงานภาพสวยงามและการเล่าเรื่องที่เข้มข้น
บททิ้งท้าย
Bet (2025): โคตรเซียนโรงเรียนพนัน เป็นซีรีส์ที่นำเสนอเรื่องราวของการพนันและการต่อสู้ทางจิตวิทยาในโรงเรียนได้อย่างน่าสนใจ ด้วยการแสดงที่ยอดเยี่ยมและงานภาพที่สวยงาม ซีรีส์นี้จึงเหมาะสำหรับผู้ชมที่ชื่นชอบเรื่องราวที่เข้มข้นและท้าทาย

ลลิน อัครเศรษฐ์
ผู้เขียน