รีวิวหนัง Den of Thieves 2 Pantera (2025) เมื่ออาชญากรรม กลายเป็นเกมแมวล่าหนูที่เดิมพันสูงกว่าเดิม

รีวิวหนัง Den of Thieves 2 Pantera (2025) เมื่ออาชญากรรม กลายเป็นเกมแมวล่าหนูที่เดิมพันสูงกว่าเดิม

Den of Thieves (2018) ได้สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับหนังอาชญากรรมแนวโจรกรรม โดยนำเสนอเรื่องราวของกลุ่มอาชญากรที่ใช้กลยุทธ์ขั้นสูง และทีมตำรวจที่ไล่ล่าพวกเขา ด้วยวิธีที่ไม่ได้ต่างกันมากนัก

ภาคต่อ Den of Thieves 2: Pantera ยกระดับเกมนี้ให้เข้มข้นขึ้น เมื่อ Big Nick (Gerard Butler) ยังคงหมกมุ่นอยู่กับการล่า Donnie Wilson (O’Shea Jackson Jr.) ซึ่งตอนนี้ได้เข้าไปอยู่ในเครือข่ายอาชญากรรมระดับโลก – มาเฟียแพนเทอร์ในยุโรป

ข้อมูลภาพยนตร์

  • ชื่อภาพยนตร์: Den of Thieves 2: Pantera
  • ปีที่ฉาย: 2025
  • หมวดหมู่: แอ็กชัน, อาชญากรรม, ระทึกขวัญ
  • ผู้กำกับ: Christian Gudegast
  • ความยาว: 144 นาที
  • วันเข้าฉาย: 10 มกราคม 2025
  • คะแนน IMDb: 6.4/10

นักแสดงและตัวละครที่เปลี่ยนไป

  • Gerard Butler กลับมาในบท ‘Big Nick’ O’Brien นายตำรวจสุดกร้านที่พร้อมจะใช้วิธีนอกกรอบเพื่อล่าตัว Donnie
  • O’Shea Jackson Jr. รับบทเป็น Donnie Wilson ที่เปลี่ยนจากโจรสมัครเล่นเป็นอาชญากรระดับโลก
  • Evin Ahmad รับบทเป็น Jovanna ตัวละครใหม่ที่อาจเป็นพันธมิตรหรือศัตรูในเกมนี้
  • Salvatore Esposito รับบทเป็น Vuk หัวหน้ากลุ่มมาเฟียแพนเทอร์ที่ Donnie ต้องเอาตัวรอดจาก
  • Swen Temmel รับบทเป็น Marko มือขวาของ Vuk ที่อาจมีแผนของตัวเอง

เรื่องย่อ: เมื่อ Donnie ไม่ใช่แค่โจร แต่เป็นเป้าหมายของทุกคน

หลังจากรอดพ้นจากเงื้อมมือของตำรวจใน Den of Thieves (2018) Donnie Wilson หายตัวไปจากลอสแองเจลิส และปรากฏตัวอีกครั้งในยุโรป พร้อมกับภารกิจโจรกรรมที่ใหญ่และอันตรายยิ่งกว่าเดิม เขากลายเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรมาเฟียแพนเทอร์ กลุ่มที่ขึ้นชื่อเรื่องการโจรกรรมเพชรที่ซับซ้อนและไร้ร่องรอย

แต่สิ่งที่เขาไม่รู้คือ Big Nick กำลังตามล่าเขา และครั้งนี้เขาไม่เพียงแค่ต้องเอาตัวรอดจากตำรวจ แต่ยังต้องระวัง กลุ่มมาเฟียที่พร้อมจะฆ่าเขาทันที หากรู้ว่าเขาเป็นตัวแปรที่คาดเดาไม่ได้

เกมนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของการปล้นอีกต่อไป แต่มันเป็น เกมแห่งการเอาตัวรอดของโจรที่ไม่รู้ว่าใครคือศัตรูที่แท้จริง

ตัวอย่างหนัง Den of Thieves 2 Pantera 2025

วิเคราะห์: Den of Thieves 2 เป็นแค่หนังปล้นทั่วไป หรือเป็นมากกว่านั้น?

จากโจรกรรมสู่สงครามจิตวิทยา

ถ้าภาคแรกเป็นเรื่องของการวางแผนปล้น Pantera เป็นเรื่องของ การเอาตัวรอดในโลกอาชญากรรมที่ไม่มีที่ว่างสำหรับความผิดพลาด

Donnie เคยเป็นเพียงโจรธรรมดาที่พยายามหาทางรวยเร็ว แต่ตอนนี้เขาต้องคิดให้ไกลกว่านั้น เขาไม่ได้แค่ขโมยของ แต่ต้องขโมยความไว้ใจของมาเฟีย เพื่อให้ตัวเองอยู่รอด

ขณะเดียวกัน Big Nick ก็ไม่ได้เป็นตำรวจทั่วไป เขาหมกมุ่นกับการจับตัว Donnie จนข้ามเส้นศีลธรรมไปแล้ว สิ่งที่น่าสนใจคือ ใครกันแน่ที่เป็นตัวร้ายในเรื่องนี้? หรือบางที Nick อาจจะเป็นอีกด้านหนึ่งของ Donnie ก็เป็นได้

แสดงให้เห็นความโหดร้ายของโลกใต้ดินที่แท้จริง

ในขณะที่หนังโจรกรรมส่วนใหญ่มักโรแมนติไซส์การปล้นให้ดูเท่ Den of Thieves 2 เลือกที่จะ แสดงด้านมืดของมันอย่างเต็มรูปแบบ

  • มาเฟียแพนเทอร์ ในเรื่องนี้ไม่ได้เป็นแค่หัวขโมย แต่เป็นอาณาจักรอาชญากรรมที่พร้อมจะฆ่าคนที่ผิดพลาด
  • Nick และตำรวจของเขา ใช้วิธีสกปรกไม่แพ้พวกโจร และอาจโหดเหี้ยมกว่าด้วยซ้ำ

หนังโจรกรรมที่แตกต่างจาก Fast & Furious หรือ Ocean’s Eleven

หลายคนอาจมองว่าหนังแนวปล้นมักจะมีแนวทางคล้ายๆ กัน เช่น Fast & Furious ที่เน้นแอ็กชันมันส์ๆ หรือ Ocean’s Eleven ที่มีสไตล์เท่ๆ

แต่ Den of Thieves 2 ไม่ใช่แบบนั้น มันมีโทนที่ จริงจัง ดิบ และสมจริงกว่ามาก ไม่มีพระเอกเท่ๆ ที่ชนะทุกอย่างง่ายๆ ทุกตัวละครในเรื่องนี้สามารถ พลาดและตายได้

รีวิว: Den of Thieves 2 สมกับการรอคอยหรือไม่?

จุดเด่นของหนัง

  • การเล่าเรื่องที่เข้มข้นและเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน คุณไม่สามารถเดาได้เลยว่าใครจะเป็นผู้รอดชีวิต
  • Gerard Butler ยังคงเล่นบท Big Nick ได้อย่างดิบและทรงพลัง ทำให้ตัวละครนี้เป็นตำรวจที่ไม่เหมือนใคร
  • ฉากแอ็กชันที่สมจริง หนังใช้การถ่ายทำสไตล์ Tactical Combat ทำให้ฉากยิงปืนและการต่อสู้ดูสมจริง
  • บรรยากาศยุโรปที่เปลี่ยนจากภาคแรก การเปลี่ยนฉากจากลอสแองเจลิสไปยุโรปทำให้หนังมีความสดใหม่

จุดที่อาจยังมีข้อสังเกต

  • ความยาวของหนังที่อาจจะยืดเยื้อไปหน่อย บางฉากอาจไม่จำเป็นและทำให้หนังช้า
  • เนื้อเรื่องที่หนักและไม่มีฉากเบาสมองมากนัก สำหรับบางคนที่คาดหวังแอ็กชันบันเทิง อาจรู้สึกว่าหนังเรื่องนี้จริงจังเกินไป

สรุป: Den of Thieves 2 เป็นภาคต่อที่คุ้มค่าหรือไม่?

หากคุณคาดหวัง หนังโจรกรรมธรรมดา ที่เต็มไปด้วยฉากปล้นแบบแฟนตาซี Den of Thieves 2 อาจไม่ใช่สำหรับคุณ แต่ถ้าคุณต้องการหนังอาชญากรรมที่ เข้มข้น ดิบ เถื่อน และเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ที่ทำให้คุณนั่งลุ้นไปจนจบ นี่คือหนังที่คุณไม่ควรพลาด

Den of Thieves 2: Pantera คือหนังที่แสดงให้เห็นว่า อาชญากรรมไม่ใช่เรื่องเท่ แต่เป็นเกมที่อันตราย และในเกมนี้ มีเพียงสองทางเลือก – เอาชีวิตรอด หรือถูกฝังอยู่ใต้ดิน

Scroll to Top