
ข้อมูลหนัง
- ชื่อหนัง: คุณชายน์ (The Cliche)
- ปีที่ฉาย: 2025
- หมวดหมู่: โรแมนติก / คอมเมดี้ / ดราม่า
- ผู้กำกับ: ชัชวาล วิศวบำรุงชัย
- ความยาว: 115 นาที
- วันเข้าฉาย: 26 ธันวาคม 2024 (โรงภาพยนตร์) / 1 พฤษภาคม 2025 (Netflix)
- คะแนน IMDb: 7.0/10
นักแสดง
อิชณน์กร พึ่งเกียรติรัศมี รับบท ชู้ต
อาทิตยา ตรีบุดารักษ์ รับบท น้ำ
พิสิฐพล เอกพงศ์พิสิฐ รับบท โจ๊ก
สัญญา คุณากร รับบท เฮียวิทิต
สมาชิกวง 4EVE ได้แก่
กรณิศ เล้าสุบิน
แฮนน่า โรเซ็นบรูม
โจริญ คัมภีรพันธุ์
ตาออม เบญญาภา
ฝ้าย ณัฐธยาน์
พั้นช์ ทิพานัน
ตั๊ก บริบูรณ์, ต๊งเหน่ง รัดเกล้า
ตัวอย่างหนัง
เรื่องย่อ
คุณชายน์ (The Cliche) เล่าเรื่องของ “ชู้ต” คอนเทนต์ครีเอเตอร์สายเสียดสีละครไทยที่เกลียดทุกความน้ำเน่าของวงการนี้เข้าไส้ แต่โชคชะตากลับเล่นตลก เมื่อเขาต้องมารับจ๊อบกำกับละครน้ำเน่าเต็มสูตรเพื่อใช้หนี้ หลังจากที่บุกบริษัทโปรดักชันไปก่อเรื่องวุ่นวายเข้าอย่างจัง
งานนี้ไม่ได้ง่าย เพราะเขาต้องปิดบังไม่ให้ “โจ๊ก” รุ่นพี่สายอินดี้หัวรุนแรงรู้ว่าเขาทรยศอุดมการณ์ และยังต้องพึ่งแฟนสาวอย่าง “น้ำ” ที่คลั่งไคล้ละครแบบนี้ราวกับเป็นตำราแห่งชีวิต ชู้ตค่อยๆ เรียนรู้ว่าบางครั้งสิ่งที่เขาดูถูก อาจมีค่ามากกว่าที่เขาคิด และชีวิตจริงก็น้ำเน่ากว่าในละครเสียอีก

รีวิวหนัง The Cliche (2024) จากชายผู้ที่เกลียดความน้ำเน่า ต้องมาทำละครน้ำเน่าซะเอง!
1. พล็อตเรื่องที่ตั้งคำถามต่อ "สิ่งน้ำเน่า" ที่เราคุ้นชิน
แม้ชื่อหนังจะเล่นคำว่า “Cliche” อย่างตรงไปตรงมา แต่ภาพยนตร์กลับนำเสนอความน้ำเน่าในมุมใหม่ ด้วยสายตาที่ทั้งเย้ยหยันและโอบกอดความเป็นไทยไว้อย่างอบอุ่น หนังไม่ปฏิเสธว่า “ละครไทย” มีสูตรซ้ำเดิม แต่กลับถามเราว่า “แล้วไงล่ะ? มันผิดตรงไหนถ้ามันยังให้ความสุขได้?”
2. เสียดสีสื่อบันเทิงอย่างมีไหวพริบ
ผู้กำกับชัชวาลใช้โทนตลกร้าย เสียดสีแบบแหลมคมโดยไม่หยาบคาย ฉากหลังฉากที่สะท้อนกระบวนการทำละคร อคติของคนรุ่นใหม่ต่อวัฒนธรรมบันเทิงเก่า รวมถึงระบบอุตสาหกรรมที่หมุนรอบเรตติ้ง ล้วนถูกนำเสนอแบบ “กัดเบาๆ แต่ทิ้งแผลลึก”
3. นักแสดงหน้าใหม่แต่ฝีมือไม่ใหม่
อิชณน์กรในบท “ชู้ต” ถ่ายทอดความซับซ้อนของชายหนุ่มที่อีโก้สูงแต่กลับต้องถ่อมตัวเรียนรู้สิ่งที่เคยเกลียดได้ดี ขณะที่อาทิตยาในบท “น้ำ” นั้นสร้างความสมดุลระหว่างความใสซื่อและความจริงใจได้อย่างน่ารักเป็นธรรมชาติ เคมีระหว่างสองคนนี้ชวนเอาใจช่วยให้รักเขาไปรอด
4. บทเพลงและองค์ประกอบศิลป์เสริมพลังเรื่องราว
หนังมีฉากร้องเพลงประกอบอยู่หลายช่วง โดยเฉพาะเพลงธีมที่ใช้เมโลดี้ละครไทยยุค 90 แบบจงใจ สร้างอารมณ์ทั้งฮาและหวนให้นึกถึงวันวาน การออกแบบฉากทั้งบนเวทีละครและเบื้องหลังทำได้ดี สะท้อนให้เห็นว่าวงการนี้ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ
5. จุดอ่อนที่ยังพอให้อภัยได้
แม้บทบางช่วงจะเดินเรื่องเร็วเกินไป หรือบางมุกจะไม่ถึงขั้นฮาท้องแข็ง แต่ด้วยโทนหนังที่อบอุ่นและมีหัวใจ ทำให้ผู้ชมส่วนใหญ่ให้อภัยได้อย่างไม่ติดใจ

กระแสตอบรับ
หลังจากเข้าฉายในช่วงปลายปี 2024 The Cliche (คุณชายน์) ก็กลายเป็นหนึ่งในหนังไทยที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในโซเชียลมีเดีย ด้วยคอนเซปต์แสบๆ ที่ทั้งเสียดสีและบอกเล่าความจริงของวงการละครไทยอย่างไม่ปรานี แต่ก็ยังอบอุ่นหัวใจในแบบที่ไม่ประชดเกินไป
บน Twitter และ TikTok มีการแชร์ฉากไฮไลต์จากในเรื่องโดยเฉพาะซีน “น้ำเน่าแต่เข้าใจได้” ของตัวละครชู้ต ที่พูดถึงชีวิตจริงที่บางทีก็แย่ยิ่งกว่าบทละคร ผู้ชมจำนวนมากชื่นชมความกล้าที่หนังกล้าพูดถึงประเด็นที่หลายคนไม่กล้าพูด และชื่นชมการแสดงของอิชณน์กรและอาทิตยา ที่ทำให้เรื่องราวดูน่าเชื่อถือแม้จะดูเวอร์วัง
รีวิวจากนักวิจารณ์ในไทย เช่นจากเว็บไซต์ Beartai และ MangoZero ต่างให้คะแนนในเชิงบวก โดยชื่นชมความคิดสร้างสรรค์ของบทและวิธีการเล่าเรื่องที่ดูเหมือนไม่จริงจัง แต่แฝงสารหนักแน่นไว้เต็มเปี่ยม
จุดเด่นของภาพยนตร์
✅ การตั้งคำถามต่อความเชื่อเดิมของวงการบันเทิง
หนังกล้าหยิบยกประเด็น “ทำไมต้องเกลียดละครน้ำเน่า” ขึ้นมาท้าทายคนดู พร้อมเปรียบเทียบกับชีวิตจริงที่อาจจะ ‘น้ำเน่ากว่า’ อย่างน่าคิด
✅ บทภาพยนตร์ที่มีชั้นเชิงและความตลกร้าย
บทสนทนาเฉียบคมแต่ไม่เวิ่นเว้อ มีทั้งมุกตลกที่ได้ผล และการใช้ภาษาที่เล่นกับความย้อนแย้งของโลกในละครกับโลกจริงอย่างแยบยล
✅ นักแสดงใหม่แต่น่าจับตามอง
อิชณน์กรและอาทิตยาทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะในซีนอารมณ์ที่ต้องถ่ายทอดความขัดแย้งในใจของตัวละคร ส่วนทีมนักแสดงสมทบ โดยเฉพาะแก๊ง 4EVE ก็ช่วยเพิ่มสีสันและความร่วมสมัยให้กับเรื่องราว
✅ โปรดักชันแน่น เพลงประกอบน่าจดจำ
การออกแบบงานภาพ การจัดแสง และฉากละครเวทีภายในเรื่องทำได้เนียนและดูมีความตั้งใจ เพลงประกอบอย่าง “น้ำเน่าแน่แต่ฉันไม่แน่ใจ” กลายเป็นวลีติดหูที่หลายคนพูดถึงในโซเชียล
บททิ้งท้าย
คุณชายน์ ไม่ได้เป็นแค่หนังตลกขายมุกหรือดราม่าน้ำตาซึม แต่มันคือหนังที่ “เข้าใจคนดู” และ “เข้าใจวงการ” อย่างลึกซึ้ง มันเปิดโอกาสให้เราไตร่ตรองสิ่งที่เคยมองข้ามและหัวเราะไปกับความจริงที่เจ็บปวด เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่ชอบเสพวัฒนธรรมไทยอย่างไม่ตัดสิน และพร้อมเปิดใจให้ความน้ำเน่าแบบที่มีชั้นเชิง