หลังจากถูกรีบูตมาแล้วหลายครั้ง Fantastic Four (2025) คือเวอร์ชันที่แฟนมาร์เวลทั่วโลกต่างคาดหวังว่าจะเป็น “การกลับบ้านอย่างสมศักดิ์ศรี” ของฮีโร่กลุ่มแรกที่มาร์เวลเคยสร้างไว้ การมาครั้งนี้อยู่ภายใต้การดูแลของ Marvel Studios อย่างเต็มตัว และจะเป็นก้าวสำคัญในการปูทางสู่มหากาพย์ Avengers: Secret Wars ที่กำลังจะมาถึงในอนาคตอันใกล้ ถ้าคุณยังลังเลว่าจะดูดีไหม ลองอ่าน 5 เหตุผลนี้ แล้วคุณอาจตัดสินใจได้ง่ายขึ้น!
5 เหตุผลที่คุณไม่ควรพลาด Fantastic Four (2025)
1. Fantastic Four กลับบ้าน! เข้าสู่ MCU อย่างเป็นทางการ
นี่คือครั้งแรกที่ Fantastic Four จะถูกบรรจุลงในจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล (MCU) อย่างแท้จริงหลังจากที่ดิสนีย์คว้าสิทธิ์จาก 20th Century Fox กลับคืนมา หมดยุคความโดดเดี่ยวของทีมนี้แล้ว เพราะคราวนี้พวกเขาจะมีโอกาสได้ปรากฏตัวร่วมกับตัวละครหลักในจักรวาล เช่น Doctor Strange, Spider-Man หรือแม้กระทั่ง X-Men และ Avengers ในอนาคต ทำให้ความเชื่อมโยงของเรื่องราวน่าติดตามกว่าที่เคย
2. ทีมนักแสดงใหม่ที่น่าจับตา + ผู้กำกับจาก WandaVision
Pedro Pascal ถูกวางตัวให้รับบท Reed Richards หรือ Mr. Fantastic นำทีมฮีโร่ผู้มีพลังพิเศษที่แฟนๆ รู้จักดี ร่วมด้วยนักแสดงคุณภาพอย่าง Vanessa Kirby ในบท Sue Storm (Invisible Woman), Joseph Quinn ในบท Johnny Storm (Human Torch) และ Ebon Moss-Bachrach ในบท Ben Grimm (The Thing) ทุกคนเป็นนักแสดงสายดราม่าที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว ไม่ใช่แค่สวยหล่อ แต่เข้าถึงบทบาทอย่างมีมิติ
ที่น่าสนใจยิ่งกว่านั้นคือผู้กำกับ Matt Shakman ซึ่งเคยกำกับ WandaVision หนึ่งในซีรีส์ที่มีลูกเล่นการเล่าเรื่องแหวกแนวและโดดเด่นที่สุดของมาร์เวล เขาจะนำสไตล์การเล่าเรื่องที่แปลกใหม่และลึกซึ้ง มาตีความ Fantastic Four ในมุมมองที่ไม่ซ้ำเดิม
3. โทนยุค 60s กับแนวไซไฟคลาสสิกที่ MCU ไม่เคยทำมาก่อน
หนึ่งในความพิเศษของ Fantastic Four (2025) คือการวางฉากหลังไว้ใน “ยุค 60s” ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เวอร์ชันคอมิกต้นฉบับถือกำเนิดขึ้น นี่จึงไม่ใช่หนังฮีโร่ร่วมสมัยทั่วไป แต่จะมีกลิ่นอายของไซไฟแบบเรโทร วิทยาศาสตร์-สำรวจ-ทดลอง-อวกาศ ผสมความลึกลับ และความเป็นมนุษย์ในมุมครอบครัว เรียกได้ว่าเป็นโทนที่ MCU ยังไม่เคยลองมาก่อน และอาจกลายเป็นเอกลักษณ์ใหม่ของเฟสนี้
4. Dr. Doom หรือ Galactus อาจมา? สัญญาณจากจักรวาลมัลติเวิร์ส
แฟนๆ คอมิกต่างรู้ดีว่า Fantastic Four มักเป็นกลุ่มแรกที่เผชิญหน้ากับตัวร้ายระดับ “ภัยคุกคามจักรวาล” ทั้ง Dr. Doom, Galactus, Silver Surfer และองค์ประกอบของ Multiverse การมาของพวกเขาในเวอร์ชัน 2025 จึงถูกคาดการณ์ว่าจะปูทางไปสู่เนื้อหาหลักใน Avengers: Secret Wars และอาจแทรกตัวร้ายในระดับ “เทพเจ้า” ที่แฟน MCU รอคอย ไม่แน่ว่าการไปดูเรื่องนี้ อาจได้เห็นอะไรที่มากกว่าแค่ “ต้นกำเนิดของ 4 ฮีโร่” ก็เป็นได้
5. หนังที่ลบภาพจำ Fantastic Four เวอร์ชันเก่า และปูทางสู่อนาคต MCU
หากคุณเคยผิดหวังกับ Fantastic Four เวอร์ชันปี 2015 หรือแม้แต่เวอร์ชันปี 2005 ที่แม้จะสนุกแต่ก็ขาดมิติในบางจุด นี่คือโอกาสใหม่ในการรีเซ็ตภาพลักษณ์ของฮีโร่กลุ่มนี้อย่างแท้จริง หนังภาคนี้ไม่ได้มาแค่เพื่อเล่าต้นกำเนิดแบบเดิมๆ แต่มีภารกิจใหญ่กว่านั้นคือการ “คืนศรัทธา” ให้ทีม FF และเปิดประตูบานใหม่ให้ MCU เดินหน้าในยุคหลัง Avengers: Endgame ได้อย่างน่าตื่นเต้นอีกครั้ง
Fantastic Four (2025) ไม่ใช่แค่หนังซูเปอร์ฮีโร่เรื่องใหม่ของมาร์เวล แต่มันคือการเปิดยุคใหม่ของ MCU ด้วยกลิ่นอายไซไฟย้อนยุคที่เต็มไปด้วยตัวละครน่าจดจำและโอกาสในการขยายจักรวาลให้ยิ่งใหญ่กว่าเดิม และไม่แน่ว่า… ตัวละครโปรดของคุณอาจโผล่มาในฉากท้ายเครดิตแบบไม่คาดฝันก็ได้! เตรียมตัวให้พร้อม แล้วมาร่วม “เริ่มต้นใหม่” ไปพร้อมกันใน Fantastic Four
ลลิน อัครเศรษฐ์
ผู้เขียน
