5 ข้อที่ควรรู้เกี่ยวกับ Mountainhead (2025) | รีวิวหนังเสียดสีชนชั้นในโลกเทคโนโลยี

5 ข้อที่ควรรู้เกี่ยวกับ Mountainhead (2025) | รีวิวหนังเสียดสีชนชั้นในโลกเทคโนโลยี

หากคุณกำลังมองหาภาพยนตร์ที่ทั้ง “ตลก เยือกเย็น และกัดเจ็บ” แบบไม่ต้องพึ่งดราม่าเวอร์… Mountainhead (2025) คือหนึ่งในหนังที่น่าจับตามองของปีนี้ ผลงานใหม่ของ Jesse Armstrong ผู้สร้างซีรีส์ Succession ที่ยังคงรักษาสไตล์การเสียดสีชนชั้นนำไว้ได้อย่างเฉียบคม

และนี่คือ 5 ประเด็นสำคัญที่คุณควรรู้ก่อนเปิดดูหนังเรื่องนี้ทาง HBO Max

5 ข้อที่ควรรู้เกี่ยวกับ Mountainhead (2025)

1. ผลงานจากผู้กำกับ Succession ที่เสียดสีคนรวยได้แบบเจ็บแสบ

Jesse Armstrong กลับมาอีกครั้งกับการ “ล้วงลึกคนรวย” ด้วยอารมณ์ขันขม ๆ แบบผู้ดีอังกฤษ Mountainhead วางกลุ่มผู้ทรงอิทธิพลในแวดวงเทคโนโลยีเอาไว้บนยอดเขาหิมะ เพื่อสะท้อน “ความเปราะบาง” ภายใต้เปลือกของความสำเร็จ บทสนทนาแหลมคม มุกจิกกัดแบบไม่ต้องพูดคำหยาบ แต่ทิ้งรอยแสบไว้ทุกฉาก

2. นักแสดงนำรวมตัวเทพสาย Dark Comedy

หนังนำโดย Steve Carell (The Office, Foxcatcher) รับบท Randall เจ้าพ่อที่มีทั้งอำนาจและอาการป่วยลึกลับ ร่วมด้วย Jason Schwartzman, Cory Michael Smith, และ Ramy Youssef ซึ่งต่างคนต่างเป็นตัวแทนของเหล่าคนรวยสายเทคที่คิดว่าตัวเองกำลังเปลี่ยนโลก… ทั้งที่บางทีก็แค่เปลี่ยนฟีเจอร์แอปให้สับสนมากขึ้น

5 ข้อที่ควรรู้เกี่ยวกับ Mountainhead (2025) | รีวิวหนังเสียดสีชนชั้นในโลกเทคโนโลยี

3. ฉากหลักคือ “บ้านบนภูเขา” แต่ความดราม่ากลับแน่นจนเหมือนระเบิด

เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นในบ้านพักหรูที่ชื่อว่า Mountainhead ท่ามกลางหิมะและวิวสวย ๆ ซึ่งตรงข้ามกับความร้อนระอุภายในตัวละคร หนังใช้โลเคชันเดียวเป็น “เวทีทดสอบ” ความสัมพันธ์และอำนาจ ผ่านบทพูดที่เฉียบจนจิกเลือด มันทั้ง “คล้ายละครเวที” และ “กัดเจ็บเหมือนแบทเทิลทางอุดมการณ์”

5 ข้อที่ควรรู้เกี่ยวกับ Mountainhead (2025) | รีวิวหนังเสียดสีชนชั้นในโลกเทคโนโลยี

4. เนื้อหาหลักคือการเสียดสีทั้ง AI, การเมือง, ความเหลื่อมล้ำ

ประเด็นที่หนังหยิบมาเล่นไม่ใช่เรื่องเล็ก — ทั้ง ปัญญาประดิษฐ์ (AI), ข้อมูลเทียม (disinformation), การควบคุมข่าวสาร, ความเหลื่อมล้ำของระบบทุน ฯลฯ ถูกโยนเข้ามาในห้องเดียวกันและปล่อยให้ระเบิดใส่กันเองแบบไร้กรอบ บางฉากอาจดูเว่อร์ไปบ้าง แต่ในยุคที่ซีอีโอตั้งบริษัทอวกาศกันเล่น ๆ อะไรก็เป็นไปได้

5. เสียงวิจารณ์ที่แตกออกเป็น 2 ฝั่ง – บางคนรัก บางคนรำคาญ

  • Tomatometer (Rotten Tomatoes): 74% (นักวิจารณ์)

  • Audience Score: 27% (ผู้ชมทั่วไป)

หลายเสียงยกย่องบทภาพยนตร์และบรรยากาศที่คมลึก แต่บางคนก็มองว่ามุกเสียดสีอาจไม่เข้าถึง หรือไม่สนุกพอหากคุณไม่ได้สนใจโลกของผู้บริหารและบิ๊กเทค บางรีวิวจาก Reddit ถึงขั้นบอกว่า “ตัวละครทั้งหมดน่าตบ” ซึ่งอาจหมายความว่า…นักแสดงเล่นดีเกินไป

5 ข้อที่ควรรู้เกี่ยวกับ Mountainhead (2025) | รีวิวหนังเสียดสีชนชั้นในโลกเทคโนโลยี

ใครบ้างที่อาจถูกใจภาพยนตร์เรื่อง Mountainhead (2025)

  1. คนที่ชอบหนังแนว “เสียดสีสังคม-ชนชั้น” (Satirical Drama) คุณจะอินกับ Mountainhead มาก เพราะมันไม่ได้แค่เล่าเรื่อง “คนรวย” แต่ “แหวะความจริง” ของอำนาจ การหลอกตัวเอง และวัฒนธรรม CEO ได้แบบจิกกัด ทันยุค
  2. แฟนซีรีส์ Succession เพราะนี่คือผลงานล่าสุดของ Jesse Armstrong ผู้สร้าง Succession ซึ่งยังคงกลิ่นอายเดิมไว้ครบถ้วน
  3. คนที่สนใจเรื่องเทคโนโลยี สื่อ การเมือง และ AI Mountainhead มีบทสนทนาเกี่ยวกับโลกจริงที่น่าจับตามอง เช่น
    • ความลื่นไหลของข่าวลวง

    • CEO โลกใหม่ที่ขับเคลื่อนอุดมการณ์แบบไร้กรอบ

    • ความไร้จริยธรรมในนามของนวัตกรรม
      เหมาะสำหรับคนที่ชอบตั้งคำถามกับโลกยุค “Tech Overload”

บททิ้งท้าย

ถ้าคุณชอบหนังแนว The Menu, Triangle of Sadness, หรือ Don’t Look Up ที่มีทั้งอารมณ์ขัน ดราม่าทางจิตวิทยา และวิพากษ์โลกปัจจุบันอย่างถึงแก่น — Mountainhead คือหนังที่คุณควรลอง แต่ถ้าคุณอยากดูอะไรสบาย ๆ คลายเครียด… ระวังไว้ก่อน เพราะนี่ไม่ใช่ความตลกแบบเบาสมองแต่เป็นตลกแบบดาร์ก ๆ

ลลิน อัครเศรษฐ์

ลลิน อัครเศรษฐ์

ผู้เขียน

Scroll to Top