รีวิวหนัง Thunderbolts* (2025) เมื่อเหล่าแอนตี้ฮีโร่รวมทีมในภารกิจสุดอันตราย

รีวิวหนัง Thunderbolts* (2025) เมื่อเหล่าแอนตี้ฮีโร่รวมทีมในภารกิจสุดอันตราย

ข้อมูลหนัง

  • ชื่อหนัง: Thunderbolts*
  • ปีที่ฉาย: 2025
  • หมวดหมู่: แอ็กชัน / ซูเปอร์ฮีโร่ / ดราม่า
  • ผู้กำกับ: เจค ชไรเออร์ (Jake Schreier)
  • ความยาว: 126 นาที
  • วันเข้าฉาย: 2 พฤษภาคม 2025 (สหรัฐอเมริกา)
  • คะแนน IMDb: 7.8/10

นักแสดงและบทบาท

  • ฟลอเรนซ์ พิวห์ รับบท เยเลนา เบโลวา

  • เซบาสเตียน สแตน รับบท บัคกี้ บาร์นส์ / วินเทอร์โซลเจอร์

  • เดวิด ฮาร์เบอร์ รับบท เรดการ์เดียน

  • ไวแอตต์ รัสเซลล์ รับบท จอห์น วอล์กเกอร์ / ยูเอสเอเจนต์

  • ฮันนาห์ จอห์น-คาเมน รับบท โกสต์

  • โอลกา คูรีเลนโก รับบท ทาสก์มาสเตอร์

  • ลูอิส พูลแมน รับบท บ็อบ / เซนทรี

  • เจอรัลดีน วิสวานาธาน รับบท เมล

  • จูเลีย หลุยส์-เดรย์ฟัส รับบท วาเลนตินา อัลเลกรา เดอ ฟงแตน

ตัวอย่างหนัง

เรื่องย่อ

หลังจากเหตุการณ์ใน “Captain America: Brave New World” โลกต้องการทีมใหม่เพื่อรับมือกับภัยคุกคามที่ซับซ้อน วาเลนตินา อัลเลกรา เดอ ฟงแตน (จูเลีย หลุยส์-เดรย์ฟัส) ผู้อำนวยการ CIA ได้รวบรวมกลุ่มแอนตี้ฮีโร่ที่มีอดีตอันมืดมน ได้แก่ เยเลนา เบโลวา, บัคกี้ บาร์นส์, เรดการ์เดียน, จอห์น วอล์กเกอร์, โกสต์ และทาสก์มาสเตอร์ เพื่อทำภารกิจลับที่อันตราย แต่เมื่อพวกเขาพบว่าตัวเองตกอยู่ในกับดักที่อาจทำลายโลก พวกเขาต้องร่วมมือกันเพื่อเอาชีวิตรอดและค้นหาความหมายของการเป็นฮีโร่ที่แท้จริง

รีวิวหนัง Thunderbolts* (2025) เมื่อเหล่าแอนตี้ฮีโร่รวมทีมในภารกิจสุดอันตราย

รีวิวหนัง Thunderbolts* (2025) เมื่อเหล่าแอนตี้ฮีโร่รวมทีมในภารกิจสุดอันตราย

Thunderbolts ไม่ใช่หนังซูเปอร์ฮีโร่แบบเดิม ๆ* แต่คือการชำแหละความหมายของ “ฮีโร่” ผ่านกลุ่มตัวละครที่ล้วนเคยทำผิด ล้มเหลว หรือถูกตราหน้าว่าไม่คู่ควรกับคำว่าวีรบุรุษ หนังตั้งคำถามที่น่าสนใจมากมายว่า “ใครควรได้โอกาสแก้ตัว?” และ “การไถ่บาปจำเป็นต้องได้การยอมรับจากสังคมหรือไม่?”

1. การเล่าเรื่อง

เจค ชไรเออร์ ผู้กำกับที่เคยกำกับ Paper Towns และ Beef มาก่อน หันมาสร้างหนังซูเปอร์ฮีโร่ด้วยสายตาที่ “เป็นมนุษย์” มากกว่าจะหวือหวา การใช้เวลาพอสมควรในการปูความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครแต่ละตัวทำให้คนดูผูกพันกับพวกเขาได้จริง โดยเฉพาะช่วงกลางเรื่องที่เปิดเผยอดีตอันเจ็บปวดของ “เซนทรี” และเบื้องหลังจิตใจที่ปริแตกของ “เยเลนา” ถือเป็นไฮไลต์สำคัญ

2. การแสดง

  • ฟลอเรนซ์ พิวห์ กลายเป็นศูนย์กลางของทีมได้อย่างสง่างาม เธอไม่เพียงรับบทนักฆ่าฝีมือดี แต่ยังใส่ความเปราะบางทางอารมณ์ ทำให้เยเลนาเป็นตัวละครที่ “จริง” และ “น่าเอาใจช่วย” มากที่สุดในกลุ่ม

  • เซบาสเตียน สแตน ยังทำให้บัคกี้ บาร์นส์ เป็นตัวละครที่มีบาดแผลในจิตใจชัดเจนที่สุด แม้จะพูดน้อยแต่ทุกฉากมีพลัง

  • ลูอิส พูลแมน ในบท “เซนทรี” คือความเซอร์ไพรส์ของเรื่อง เขาคือบุคคลที่ทรงพลังที่สุดแต่ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ ทำให้ทุกซีนของเขารู้สึกเหมือน “ระเบิดเวลา” ที่พร้อมจะถล่มโลก

3. แอคชั่นและภาพ

ฉากแอ็กชันใน Thunderbolts* ไม่เน้นความยิ่งใหญ่แบบ Avengers: Endgame แต่เน้นความหนักหน่วงและมีเดิมพันสูง การออกแบบฉากต่อสู้ส่วนใหญ่มาจากทักษะจริง ไม่ใช่ CGI เพียว ๆ ซึ่งเพิ่มความรู้สึกสมจริงและเจ็บจริงให้กับหนังอย่างชัดเจน

รีวิวหนัง Thunderbolts* (2025) เมื่อเหล่าแอนตี้ฮีโร่รวมทีมในภารกิจสุดอันตราย

กระแสตอบรับ

  • เว็บไซต์ Rotten Tomatoes (ณ วันเปิดตัวรอบนักวิจารณ์) ให้คะแนนความพึงพอใจ 88% โดยระบุว่า “Thunderbolts* คือการปรับแนวทางของ MCU ให้โตขึ้น เข้มขึ้น และให้พื้นที่กับตัวละครที่คนเคยมองข้าม”

  • แฟนคลับมาร์เวลจำนวนหนึ่งเปรียบเทียบเรื่องนี้กับ The Suicide Squad (เวอร์ชันของ James Gunn) แต่ยกย่องว่า Thunderbolts* จริงจังกว่า และมีน้ำหนักทางอารมณ์มากกว่า

  • อย่างไรก็ตาม บางเสียงวิจารณ์มองว่าโทนหนัง “หม่นเกินไป” สำหรับผู้ชมทั่วไป และมีช่วงยืดยาวบ้างในกลางเรื่อง

จุดเด่นของภาพยนตร์

  • การสร้างทีมแอนตี้ฮีโร่ที่มีมิติ และไม่ซ้ำซาก

  • บทสนทนาที่เฉียบคมและมีน้ำหนักทางอารมณ์

  • การแสดงอันทรงพลังของฟลอเรนซ์ พิวห์ และเซบาสเตียน สแตน

  • ฉากแอ็กชันที่ออกแบบมาเพื่อดึงอารมณ์ ไม่ใช่แค่โชว์พลัง

  • การเปิดประตูใหม่ให้ MCU ด้วยโทนที่หม่นและโตขึ้น

ใครบ้างที่น่าจะชอบหนังเรื่องนี้?

  • แฟน Marvel ที่เริ่มเบื่อสูตรเดิม ๆ และต้องการหนังที่โตขึ้น

  • คนที่ชอบหนังซูเปอร์ฮีโร่แบบมีดราม่าหนัก ๆ อย่าง Logan หรือ The Batman

  • ผู้ชมที่สนใจธีมเกี่ยวกับการไถ่บาป, ความเสียใจ และ “โอกาสครั้งที่สอง”

  • คนที่ชอบดูตัวละครที่มีข้อบกพร่อง แต่พยายามดีขึ้นด้วยตัวเอง

บททิ้งท้าย

Thunderbolts (2025)* ไม่ใช่หนังซูเปอร์ฮีโร่ที่มาเพื่อบันเทิงอย่างเดียว แต่มาเพื่อสะท้อนความเป็นมนุษย์ผ่านตัวละครที่ไม่สมบูรณ์แบบ หนังเรื่องนี้คือการทดลองสำคัญของ Marvel ในการนำเสนอ “ความขม” ที่จริงจังแต่ยังน่าดู ด้วยบทที่ดี ฉากแอ็กชันที่ดุดัน และการแสดงที่ลึกซึ้ง ทำให้มันเป็นอีกหมุดหมายที่ควรจับตามองในอนาคตของ MCU

Scroll to Top