
ข้อมูลหนัง
- ชื่อหนัง: The Policeman’s Lineage (คนหักคน)
- ปีที่ฉาย: 2022
- หมวดหมู่: อาชญากรรม / ดราม่า / ระทึกขวัญ
- ผู้กำกับ: อี คยูมัน (Lee Kyoo-man)
- ความยาว: 119 นาที
- วันเข้าฉาย: 5 มกราคม 2022 (เกาหลีใต้)
- คะแนน IMDb: 6.1/10
- คะแนน Metacritic: 54/100
นักแสดงและบทบาท
โจ จินอุง (Jo Jin-woong) รับบท พัค คังยุน – หัวหน้าหน่วยสืบสวนยาเสพติด ผู้เลือกใช้วิธีการล้ำเส้นกฎหมาย
ชเว อูชิก (Choi Woo-shik) รับบท ชเว มินแจ – ตำรวจหนุ่มเลือดใหม่ที่เชื่อมั่นใน “กฎหมายต้องมาก่อนทุกสิ่ง”
พัค ฮีซุน (Park Hee-soon) รับบท ฮวัง อินโฮ – ผู้นำหน่วยสอบสวนภายใน ที่แฝงนัยการเมืองในการสั่งการ
ควอน ยูล (Kwon Yul) รับบท นา ยองบิน – เจ้าพ่อเบื้องหลังธุรกิจสีเทา
พัค มยองฮุน (Park Myung-hoon) รับบท ชา ดงชอล – มือสายข่าวที่เชื่อมโลกมืดกับตำรวจ
ตัวอย่างหนัง
เรื่องย่อ
“คนหักคน” ถ่ายทอดเรื่องราวของ ชเว มินแจ (ชเว อูชิก) นายตำรวจหนุ่มที่เติบโตมาในครอบครัวตำรวจ และเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าว่า “ตำรวจต้องรักษากฎหมายให้บริสุทธิ์” เขาได้รับภารกิจลับจากหน่วยสอบสวนภายใน ให้แฝงตัวเข้าไปในทีมของ พัค คังยุน (โจ จินอุง) หัวหน้าหน่วยสืบสวนที่ขึ้นชื่อเรื่องการ “ทำผิดเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ถูก”
แต่เมื่อชเว มินแจ ได้คลุกคลีอยู่กับโลกใต้ดินที่สกปรก เขากลับต้องตั้งคำถามว่า “ในโลกแห่งความจริง การทำตามกฎเสมอไป จะปกป้องคนดีได้จริงหรือ?” — การต่อสู้ที่ไม่ใช่แค่ภายนอก แต่เป็นศึกในใจที่ไม่มีเส้นแบ่งชัดเจนระหว่างถูกหรือผิด

รีวิวหนัง The Policeman's Lineage (2022) เมื่ออุดมการณ์ปะทะความจำเป็นและตำรวจดีกับตำรวจเลว อาจเป็นคนเดียวกัน
1. การแสดงที่พาคนดูดำดิ่ง
ทั้งโจ จินอุงและชเว อูชิก ต่างถ่ายทอดตัวละครได้มีเลือดมีเนื้อ พัค คังยุนของโจ จินอุง ไม่ใช่แค่ตำรวจหัวแข็ง แต่ยังเป็นชายที่แบกโลกทั้งใบไว้บนบ่า และพร้อมจะทิ้งหลักการเพื่อช่วยคนที่ต้องการความยุติธรรมจริง ๆ
ขณะเดียวกัน ชเว อูชิก ในบทชเว มินแจ ก็สะท้อนเส้นทางจากความไร้เดียงสาสู่การลิ้มรส “พื้นที่สีเทา” ได้อย่างน่าเชื่อถือ เราจึงได้เห็นตัวละครที่เปลี่ยนไปทีละน้อย จนสุดท้ายกลายเป็นคำถามใหญ่ในใจผู้ชมว่า — “คุณจะยังเชื่อในความถูกต้องอยู่ไหม ถ้าความถูกต้องฆ่าคนบริสุทธิ์?”
2. โครงสร้างเรื่องที่ไม่แบ่งขาว-ดำ
“The Policeman’s Lineage” มีเสน่ห์ตรงที่ ไม่ตัดสินตัวละครแบบง่าย ๆ ไม่มีใครเป็นฮีโร่หรือปีศาจ 100% ทุกการกระทำของตัวละครมี “เหตุผล” และ “เจ็บปวด” เป็นเงื่อนไขเบื้องหลัง หนังทำให้เรารู้สึกสับสนเหมือนตัวละครเอง ว่าทางไหนกันแน่ที่ถูกต้องในโลกที่เต็มไปด้วยผลประโยชน์และการหักหลัง

3. ประเด็นสังคมและเส้นบาง ๆ ระหว่างความถูกต้องกับผลลัพธ์
หนังตั้งคำถามหนัก ๆ ตลอดเรื่อง เช่น
ตำรวจควรทำทุกอย่างเพื่อจับผู้ร้ายหรือไม่ แม้ต้องผิดกฎหมายเอง?
การรักษาศักดิ์ศรีตำรวจสำคัญกว่าการช่วยเหลือคนหรือไม่?
ระบบที่เน่าเฟะกว่าตัวบุคคลจะรักษาได้อย่างไร?
“คนหักคน” กลายเป็นภาพยนตร์ที่ไม่ได้พูดถึงเพียง “ตำรวจเลว” หรือ “ตำรวจดี” แต่สะท้อนโครงสร้างอำนาจที่ซับซ้อนในสังคมอย่างจริงจัง
4. งานภาพและบรรยากาศ
โทนสีเย็นและฉากเมืองที่ดูหม่นหมองถูกใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อสะท้อนโลกที่ไร้ความชัดเจนระหว่างถูกและผิด เสริมบรรยากาศให้อึดอัด กดดัน และหม่นเศร้าตลอดทั้งเรื่อง การตัดต่อมีจังหวะเนิบช้าในช่วงแรก ก่อนจะเร่งเร้าและดุดันขึ้นเรื่อย ๆ จนถึงไคลแม็กซ์
กระแสตอบรับและรางวัลที่ได้รับภาพยนตร์เรื่อง The Policeman’s Lineage (2022)
“The Policeman’s Lineage (2022) คนหักคน” ได้รับเสียงชื่นชมอย่างมากจากผู้ชมสายจริงจังในเกาหลีใต้ ถึงแม้คะแนน Metacritic จะอยู่ระดับกลาง (54/100) แต่หลายสำนักยกย่องว่าหนังนี้ กล้าหาญในการเล่าเรื่อง และซื่อสัตย์ต่อความซับซ้อนของมนุษย์
ชเว อูชิก ได้รับคำชมเป็นพิเศษ ว่าเป็นการแสดงที่พลิกบทบาทจากภาพหนุ่มใสใน “Parasite” มาสู่บทบาทที่เต็มไปด้วยภาวะทางจิตใจที่สับสน
โจ จินอุง ยังคงตรึงผู้ชมด้วยเสน่ห์อันลึกลับและความหนักแน่นในตัวละคร
หนังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Best Actor และ Best Screenplay จากเวที Blue Dragon Film Awards ปี 2022
สรุปภาพรวม
“คนหักคน” ไม่ใช่หนังสืบสวนที่เน้นความตื่นเต้นหรือพลิกผันแบบหวือหวา แต่มันคือหนังที่ค่อย ๆ กัดกินหัวใจคนดูด้วยคำถามที่หนักอึ้ง และพาเราไปเห็นด้านมืดของคำว่า “ผู้รักษากฎหมาย” อย่างตรงไปตรงมา เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่ชอบหนังแนวสืบสวนเชิงจิตวิทยา มีความลึก ซับซ้อน และไม่ยัดเยียดคำตอบง่าย ๆ ให้กับคนดู