รีวิวหนัง The Platform 2 (2024) เมื่อความเท่าเทียมกลายเป็นกับดักใหม่ในขุมนรกแนวตั้ง

รีวิวหนัง The Platform 2 (2024) เมื่อความเท่าเทียมกลายเป็นกับดักใหม่ในขุมนรกแนวตั้ง

ข้อมูลหนัง

  • ชื่อหนัง: El Hoyo 2 (The Platform 2)
  • ปีที่ฉาย: 2024
  • หมวดหมู่: ไซไฟ, สยองขวัญ, ระทึกขวัญ
  • ผู้กำกับ: Galder Gaztelu-Urrutia
  • ความยาว: 101 นาที
  • วันเข้าฉาย: 4 ตุลาคม 2024
  • คะแนน IMDb: 4.9/10

นักแสดงหลัก

  • Milena Smit รับบท Perempuan
  • Hovik Keuchkerian รับบท Zamiatin
  • Natalia Tena รับบท Sahabat
  • Óscar Jaenada รับบท Dagin Babi
  • Iván Massagué รับบท Goreng
  • Zorion Eguileor รับบท Trimagasi
  • Antonia San Juan รับบท Imoguiri
รีวิวหนัง The Platform 2 (2024) เมื่อความเท่าเทียมกลายเป็นกับดักใหม่ในขุมนรกแนวตั้ง

เรื่องย่อ The Platform 2

หลังจากเหตุการณ์ในภาคแรก The Platform 2 (El Hoyo 2) ยังคงเกิดขึ้นใน The Pit คุกแนวตั้งอันน่าสะพรึงกลัวที่ใช้ระบบแพลตฟอร์มอาหารในการกระจายทรัพยากร โดยอาหารจะเคลื่อนจากชั้นบนสุดลงมาชั้นล่างสุด และผู้ต้องขังแต่ละคนจะต้องเผชิญกับความจริงอันโหดร้ายของการเอาตัวรอด

สิ่งที่เปลี่ยนไปในภาคนี้

  • ระบบภายใน The Pit มีการตั้ง “กฎใหม่” ขึ้นมาโดยกลุ่มผู้ต้องขังที่เชื่อใน “ความเท่าเทียม”
  • ทุกคนต้องเลือกอาหารของตนเอง และไม่มีใครสามารถแตะต้องอาหารของผู้อื่น
  • Perempuan (Milena Smit) และ Zamiatin (Hovik Keuchkerian) เป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่พยายามรักษาระเบียบใหม่นี้

แต่เมื่อมนุษย์ต้องเผชิญกับความหิวโหย กฎเกณฑ์ก็เริ่มถูกท้าทาย เมื่อมีคนฝ่าฝืนระบบ “ความเท่าเทียม” ที่พวกเขาสร้างขึ้น ความขัดแย้งก็ปะทุขึ้น Perempuan และ Zamiatin ต้องตัดสินใจ ว่าจะรักษาหลักการของตน หรือจะกลายเป็นเหยื่อของระบบที่พวกเขาพยายามสร้างขึ้นเอง ในที่สุด The Pit กลายเป็นสนามรบระหว่างอุดมการณ์ที่ขัดแย้งกัน

ตัวอย่างหนัง The Platform 2 (El hoyo 2) เดอะ แพลตฟอร์ม 2

เนื้อหาต่อไปนี้มีสปอย

รีวิวและการวิเคราะห์: "The Platform 2" ขยายแนวคิดจากภาคแรกอย่างไร?

1. ระบบที่คิดว่า “ยุติธรรม” จริง ๆ แล้วเป็นแค่ภาพลวงตาหรือไม่?
ภาคแรกของ El Hoyo นำเสนอแนวคิด “โครงสร้างสังคมและชนชั้น” ที่ถูกกำหนดโดยผู้ควบคุมระบบ แต่ในภาคนี้ ตัวผู้ต้องขังเองกลับเป็นผู้กำหนดกฎเกณฑ์ และพยายามสร้างความยุติธรรมที่แท้จริง

ประเด็นที่หนังต้องการชี้ให้เห็น:

  • แม้แต่ “ความเท่าเทียม” ก็ยังเป็นระบบที่บังคับและควบคุมผู้อื่น
  • ความคิดที่ว่าทุกคนสามารถได้รับสิทธิ์อย่างเท่าเทียมกัน อาจไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปได้จริง เมื่อมนุษย์ยังคงมี สัญชาตญาณการเอาตัวรอด

นี่สะท้อนถึงโลกความจริง ที่ระบบเศรษฐกิจและการเมืองมักพยายามสร้าง “ความเท่าเทียม” แต่สุดท้ายกลับพบว่า มนุษย์ไม่สามารถละทิ้งความโลภและการเอาตัวรอดได้

2. ความขัดแย้งของมนุษย์เมื่ออุดมการณ์ชนกัน
ในภาคนี้ เราเห็นชัดว่า แม้แต่ในสังคมที่คนพยายามทำให้ “ดีขึ้น” ก็ยังเกิดการแบ่งแยกและขัดแย้ง

  • ฝ่ายที่เชื่อในกฎใหม่ Perempuan และ Zamiatin พยายามรักษากฎ “กินแค่ของตัวเอง” เพื่อให้ทุกคนมีสิทธิ์เท่าเทียม เชื่อว่ามันเป็นทางออกที่ยุติธรรมที่สุด
  • ฝ่ายที่เชื่อในอิสระภาพ Sahabat และ Dagin Babi มองว่ามนุษย์ไม่ควรถูกจำกัดด้วยกฎที่ใครก็ไม่รู้กำหนดขึ้น พวกเขาเชื่อว่าทุกคนควรมีสิทธิ์เลือกเอง

ความขัดแย้งนี้ทำให้ The Pit กลายเป็น “สงครามของอุดมการณ์” ที่ไม่มีทางออกที่สมบูรณ์แบบ

3. เชิงสัญลักษณ์: The Pit, อาหาร และธรรมชาติของมนุษย์

  • The Pit (ขุมนรกแนวตั้ง) สะท้อนถึง โครงสร้างทางสังคมที่ไม่มีทางเป็นธรรมได้อย่างแท้จริง
  • แพลตฟอร์มอาหาร ในภาคแรก เป็นสัญลักษณ์ของอำนาจและชนชั้น ในภาคนี้ เป็นตัวแทนของ “ความพยายามสร้างระบบใหม่” ที่สุดท้ายก็ยังล้มเหลว
  • พฤติกรรมของผู้ต้องขัง สะท้อนว่า มนุษย์สามารถเป็นทั้งเหยื่อและผู้กดขี่ได้ในเวลาเดียวกัน

สุดท้ายแล้ว ภาพยนตร์ตั้งคำถามว่า “มนุษย์จะสามารถอยู่ร่วมกันในระบบที่เท่าเทียมได้จริงหรือ?”

จุดแข็งและจุดอ่อนของ The Platform 2

จุดแข็ง

  • ขยายแนวคิดจากภาคแรก ทำให้คนดูคิดลึกขึ้น
  • ฉากความรุนแรงและความตึงเครียดยังคงน่าติดตาม
  • นักแสดงนำอย่าง Milena Smit ถ่ายทอดอารมณ์ได้ดี

จุดอ่อน
❗ เนื้อหายังไม่ลึกซึ้งเท่าภาคแรก อาจทำให้คนดูรู้สึกไม่เชื่อมโยง
❗ ความขัดแย้งในเรื่องอาจดูซับซ้อนแต่ขาดน้ำหนักที่ชัดเจน
❗ การดำเนินเรื่องรวดเร็วเกินไป ทำให้การพัฒนาตัวละครบางตัวดูขาดมิติ

สรุป The Platform 2 ควรดูหรือไม่?

The Platform 2 (El Hoyo 2) ยังคงเล่นกับแนวคิด “โครงสร้างทางสังคมและพฤติกรรมมนุษย์เมื่อเผชิญกับความกดดัน” ได้ดี แม้ว่า จะไม่ได้ลึกซึ้งและมีพลังเท่าภาคแรก

แนะนำให้ดูถ้าคุณ.. สนใจประเด็นเชิงสังคมที่เกี่ยวข้องกับธรรมชาติของมนุษย์ ชอบหนังแนวไซไฟ-ระทึกขวัญที่สะท้อนระบบในโลกแห่งความจริง ชอบภาคแรกและอยากรู้ว่าภาคนี้จะพัฒนาเรื่องราวไปอย่างไร

อาจไม่เหมาะถ้าคุณ.. คาดหวังว่ามันจะลึกซึ้งเท่าภาคแรก ไม่ชอบหนังที่มีฉากรุนแรงและสะท้อนด้านมืดของมนุษย์

Scroll to Top