รีวิวหนัง The Other Boleyn Girl (2008) ดราม่ารัก อำนาจ และโศกนาฏกรรมแห่งราชสำนักอังกฤษ

รีวิวหนัง The Other Boleyn Girl (2008) ดราม่ารัก อำนาจ และโศกนาฏกรรมแห่งราชสำนักอังกฤษ

ข้อมูลหนัง

  • ชื่อหนัง: The Other Boleyn Girl บัลลังก์รัก ฉาวโลก
  • ปีที่ฉาย: 2008
  • หมวดหมู่: ดราม่า, ประวัติศาสตร์, โรแมนติก
  • ผู้กำกับ: Justin Chadwick
  • ความยาว: 115 นาที
  • วันเข้าฉาย: 29 กุมภาพันธ์ 2008 (สหรัฐอเมริกา)
  • คะแนน IMDb: 6.7/10

นักแสดง

  • Natalie Portman รับบท Anne Boleyn
  • Scarlett Johansson รับบท Mary Boleyn
  • Eric Bana รับบท King Henry VIII
  • Jim Sturgess รับบท George Boleyn
  • Kristin Scott Thomas รับบท Elizabeth Boleyn
  • Mark Rylance รับบท Thomas Boleyn

ตัวอย่าง The Other Boleyn Girl บัลลังก์รัก ฉาวโลก

เรื่องย่อ The Other Boleyn Girl บัลลังก์รัก ฉาวโลก

The Other Boleyn Girl เป็นภาพยนตร์ดราม่าประวัติศาสตร์ที่สร้างจากนวนิยายของ Philippa Gregory ซึ่งตีความเหตุการณ์ในราชสำนักอังกฤษช่วงศตวรรษที่ 16 ใหม่ โดยเน้นไปที่เรื่องราวของสองพี่น้องตระกูลโบลีน—แมรี่และแอนน์ ที่ถูกครอบครัวผลักดันให้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของวังหลวง เพื่อช่วงชิงความรักและอำนาจจากพระเจ้าเฮนรีที่ 8 แห่งอังกฤษ

แมรี่ (Scarlett Johansson) ถูกส่งตัวเข้าไปใกล้ชิดกับพระเจ้าเฮนรี (Eric Bana) และกลายเป็นพระสนมที่ให้กำเนิดลูกชายให้กับพระองค์ อย่างไรก็ตาม แอนน์ (Natalie Portman) ผู้ทะเยอทะยานและต้องการมากกว่านั้น ได้เข้ามาแย่งชิงตำแหน่ง และในที่สุด เธอก็ทำให้พระเจ้าเฮนรีประกาศหย่าขาดจากสมเด็จพระราชินีแคเธอรีน และแต่งตั้งเธอขึ้นเป็นราชินี

แต่เส้นทางสู่บัลลังก์ของแอนน์ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ การสมรสของเธอกับพระเจ้าเฮนรีเต็มไปด้วยแรงกดดัน เมื่อเธอไม่สามารถให้กำเนิดรัชทายาทชายได้ ความโปรดปรานของกษัตริย์จึงค่อย ๆ ลดลง จนกระทั่งนำไปสู่จุดจบอันโหดร้ายของเธอและครอบครัวโบลีน

รีวิว The Other Boleyn Girl บัลลังก์รัก ฉาวโลก

1. บทภาพยนตร์ – ดราม่าทรงพลังแต่บิดเบือนประวัติศาสตร์

แม้ว่า The Other Boleyn Girl จะนำเสนอโศกนาฏกรรมของตระกูลโบลีนได้อย่างเข้มข้นและดึงดูดผู้ชมด้วยอารมณ์ที่หนักแน่น แต่ต้องยอมรับว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้เป็นการเล่าเรื่องประวัติศาสตร์ที่แม่นยำ บทภาพยนตร์มีการดัดแปลงและใส่สีตีไข่เพื่อเพิ่มดราม่าความสัมพันธ์ระหว่างตัวละคร และลดทอนบทบาทของเหตุการณ์ทางการเมืองลง

ในประวัติศาสตร์จริง แมรี่โบลีนเป็นเพียงพระสนมของพระเจ้าเฮนรีเพียงช่วงเวลาสั้น ๆ และไม่มีหลักฐานที่แน่ชัดว่าเธอให้กำเนิดลูกชายของพระองค์ ในขณะที่แอนน์ก็ไม่ได้มีบุคลิกที่ร้ายกาจและเจ้าเล่ห์เท่าที่หนังพยายามนำเสนอ

แต่หากมองข้ามเรื่องความแม่นยำทางประวัติศาสตร์ The Other Boleyn Girl เป็นหนังที่เต็มไปด้วยความเข้มข้นและเล่าเรื่องความทะเยอทะยานและการทรยศในราชสำนักได้อย่างดราม่าถึงใจ

รีวิวหนัง The Other Boleyn Girl (2008) ดราม่ารัก อำนาจ และโศกนาฏกรรมแห่งราชสำนักอังกฤษ

2. การแสดง – ปะทะกันอย่างดุเดือดระหว่าง Natalie Portman และ Scarlett Johansson

หนึ่งในจุดแข็งของภาพยนตร์เรื่องนี้คือ การแสดงของสองนักแสดงนำ Natalie Portman และ Scarlett Johansson ที่สามารถทำให้ความขัดแย้งระหว่างสองพี่น้องดูสมจริงและทรงพลัง

  • Natalie Portman ถ่ายทอดบทบาทของแอนน์ โบลีน ได้อย่างยอดเยี่ยม เธอสามารถทำให้ตัวละครนี้ดูทั้งทรงพลัง ฉลาด แต่ขณะเดียวกันก็ดูเปราะบางในช่วงสุดท้ายของชีวิต ความทะเยอทะยานของเธอถูกนำเสนอผ่านสายตาและการแสดงออกที่เฉียบคม ทำให้ผู้ชมทั้งรู้สึกชื่นชมและหวาดกลัวในเวลาเดียวกัน
  • Scarlett Johansson ในบทแมรี่ โบลีน ให้การแสดงที่แตกต่างไปโดยสิ้นเชิง เธอถ่ายทอดความอ่อนโยน ความรักที่บริสุทธิ์ และความเศร้าโศกออกมาได้อย่างน่าเห็นใจ ทำให้แมรี่เป็นตัวละครที่มีมิติและแตกต่างจากแอนน์อย่างชัดเจน

ด้าน Eric Bana ที่รับบทเป็นพระเจ้าเฮนรีที่ 8 อาจจะไม่ได้เป็นจุดเด่นของเรื่องมากนัก การแสดงของเขาแข็งแกร่งและให้ภาพของกษัตริย์ผู้ลุ่มหลงในราคะและอำนาจได้ดี แต่ไม่ได้มีเสน่ห์มากพอที่จะทำให้เข้าใจว่าทำไมทั้งแมรี่และแอนน์ถึงต่อสู้เพื่อเขา

3. โปรดักชันและการออกแบบฉาก – สวยงามแต่ไม่สมจริง

หนึ่งในจุดที่ The Other Boleyn Girl ทำได้ดีคือ การออกแบบเครื่องแต่งกายและฉาก ที่ช่วยให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนได้ย้อนเวลากลับไปในยุคทิวดอร์ เสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายของแอนน์และแมรี่ดูหรูหราและสะท้อนสถานะทางสังคมของพวกเธอได้เป็นอย่างดี

อย่างไรก็ตาม ฉากบางส่วนกลับดูเรียบง่ายเกินไปเมื่อเทียบกับหนังประวัติศาสตร์เรื่องอื่น ๆ โดยเฉพาะห้องบัลลังก์และฉากในพระราชวังที่ดูไม่ค่อยอลังการเท่าที่ควรเมื่อเทียบกับเรื่องราวของราชวงศ์ที่ยิ่งใหญ่

4. อารมณ์และธีมหลักของเรื่อง

สิ่งที่ The Other Boleyn Girl ทำได้ดีคือการถ่ายทอด ธีมของความทะเยอทะยาน อำนาจ ความรัก และโศกนาฏกรรมของผู้หญิงในราชสำนัก หนังสะท้อนให้เห็นว่าในยุคนั้น ผู้หญิงมักถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง และชีวิตของพวกเธอสามารถถูกกำหนดโดยการตัดสินใจของบุรุษเพียงคนเดียว

ความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องในเรื่องเต็มไปด้วยความซับซ้อน จากความรัก กลายเป็นการแข่งขัน และจบลงด้วยโศกนาฏกรรม ทำให้เรื่องนี้เป็นมากกว่าหนังอิงประวัติศาสตร์ทั่วไป แต่เป็นหนังดราม่าครอบครัวที่เข้มข้น

สรุป The Other Boleyn Girl บัลลังก์รัก ฉาวโลก คุ้มค่ากับการรับชมไหม?

จุดแข็งของ The Other Boleyn Girl อยู่ที่การแสดงของ Natalie Portman และ Scarlett Johansson ที่สามารถดึงอารมณ์ความซับซ้อนของตัวละครออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ทำให้เรื่องราวของพี่น้องตระกูลโบลีนเต็มไปด้วยความเข้มข้นและน่าติดตาม นอกจากนี้ โครงเรื่องยังถูกนำเสนอในลักษณะที่ดราม่าถึงใจ ถ่ายทอดอารมณ์ของความรัก ความทะเยอทะยาน และการทรยศได้อย่างหนักแน่น อีกหนึ่งจุดที่โดดเด่นคือ เครื่องแต่งกายและโปรดักชัน ที่ออกแบบมาได้อย่างสวยงามและสมจริง ช่วยสร้างบรรยากาศของยุคทิวดอร์ให้ดูมีชีวิตชีวาและน่าดึงดูด

อย่างไรก็ตาม จุดอ่อนของภาพยนตร์เรื่องนี้คือ การบิดเบือนประวัติศาสตร์ พอสมควรเพื่อเพิ่มความเข้มข้นของดราม่า ซึ่งอาจทำให้ผู้ที่สนใจประวัติศาสตร์รู้สึกขัดใจ อีกทั้ง ฉากบางส่วนในพระราชวังกลับไม่อลังการเท่าที่ควร เมื่อเทียบกับภาพยนตร์แนวเดียวกัน ส่งผลให้บรรยากาศของราชสำนักไม่ยิ่งใหญ่สมกับความเป็นเรื่องราวของกษัตริย์และราชินี นอกจากนี้ การดำเนินเรื่องในบางช่วงอาจ เร็วเกินไปจนขาดความลึกซึ้ง ทำให้ผู้ชมบางคนรู้สึกว่าเหตุการณ์สำคัญบางอย่างถูกเร่งรัดมากเกินไป จนไม่สามารถซึมซับอารมณ์ของตัวละครได้อย่างเต็มที่

The Other Boleyn Girl อาจไม่ใช่ภาพยนตร์ที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความแม่นยำทางประวัติศาสตร์ แต่สำหรับผู้ที่ชอบ ดราม่าประวัติศาสตร์ที่เข้มข้นและเต็มไปด้วยความขัดแย้งทางอารมณ์ หนังเรื่องนี้จะตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี

Scroll to Top