รีวิวหนัง The Marsh King’s Daughter (2023) เมื่อเขาต้องต่อสู้กับปีศาจร้ายที่เป็นทั้งพ่อและคนลักพาตัว

รีวิวหนัง The Marsh King's Daughter (2023) เมื่อเขาต้องต่อสู้กับปีศาจร้ายที่เป็นทั้งพ่อและคนลักพาตัว

ข้อมูลหนัง

  • ชื่อหนัง: The Marsh King’s Daughter ล่าแค้นสันดานดิบ
  • ปีที่ฉาย: 2023
  • หมวดหมู่: ระทึกขวัญ / ดราม่า / จิตวิทยา / เอาชีวิตรอด
  • ผู้กำกับ: นีล เบอร์เกอร์ (Neil Burger)
  • ความยาว: 108 นาที
  • วันเข้าฉาย: 3 พฤศจิกายน 2023 (ในสหรัฐฯ)
  • คะแนน IMDb: 5.9/10

นักแสดงนำ

  • Daisy Ridley รับบท เฮเลนา

  • Ben Mendelsohn รับบท เจคอบ โฮลบรูค (Marsh King)

  • Brooklynn Prince รับบท เฮเลนา (วัยเด็ก)

  • Garrett Hedlund รับบท สตีเฟน พัลเลเทียร์

  • Caren Pistorius รับบท เบธ

  • Gil Birmingham รับบท คลาร์ก เบคคัม

เรื่องย่อ

The Marsh King’s Daughter ดัดแปลงจากนวนิยายขายดีของ Karen Dionne ถ่ายทอดเรื่องราวของ เฮเลนา หญิงสาวผู้ดูเหมือนใช้ชีวิตปกติในเมืองเล็ก ๆ กับครอบครัวใหม่ที่เธอรัก แต่เธอกลับเก็บงำอดีตอันดำมืดไว้ภายใน—อดีตที่เกี่ยวพันกับพ่อของเธอ เจคอบ โฮลบรูค หรือที่รู้จักในนาม “Marsh King” ผู้ลักพาตัวแม่ของเธอและเลี้ยงดูเฮเลนาอย่างโดดเดี่ยวในป่าเป็นเวลากว่า 12 ปี

เมื่อเจคอบหลบหนีออกจากเรือนจำหลังถูกคุมขังมายาวนาน เฮเลนารู้ว่ามีเพียงเธอเท่านั้นที่เข้าใจวิธีคิดของเขาและสามารถหยุดยั้งไม่ให้เขาทำร้ายครอบครัวใหม่ของเธอได้ ด้วยทักษะการเอาตัวรอดในป่าที่พ่อเคยสอน เธอจึงออกเดินทางกลับสู่ “โลกเก่า” เพื่อเผชิญหน้ากับปีศาจจากอดีตของตัวเอง

รีวิวหนัง The Marsh King’s Daughter (2023)

รีวิวหนัง The Marsh King's Daughter (2023) เมื่อเขาต้องต่อสู้กับปีศาจร้ายที่เป็นทั้งพ่อและคนลักพาตัว

1. การแสดงที่ทรงพลังของ Daisy Ridley

เดซี่ ริดลีย์ หลุดพ้นจากภาพ “เรย์” ใน Star Wars ได้อย่างสมบูรณ์แบบในบทเฮเลนา เธอรับบทหญิงสาวที่เต็มไปด้วยความขัดแย้งภายใน ความโกรธ ความรัก ความหวาดกลัว และความกล้าหาญ หลอมรวมอยู่ในตัวละครเดียวกันอย่างน่าเชื่อถือ โดยเฉพาะซีนที่ต้องสื่อสารผ่านสายตา—Ridley ทำได้ดีจนคนดูรู้สึกได้ถึงความร้าวลึกในใจเฮเลนา

2. ตัวร้ายที่น่ากลัวอย่างแท้จริง

เบน เมนเดลโซห์น ถ่ายทอดบทบาท Marsh King ได้อย่างน่ากลัวแต่ลุ่มลึก เขาไม่ใช่เพียงตัวร้ายแบบดำสนิท แต่เป็นชายผู้มีอำนาจบางอย่างที่กุมจิตใจลูกสาวไว้ด้วยความกลัวและการควบคุม บทสนทนาของเขากับเฮเลนาในช่วงท้ายเรื่องเป็นจุดไคลแมกซ์ที่ทั้งกดดันและน่าหวาดหวั่น

3. บรรยากาศและภาพยนตร์เชิงจิตวิทยา

หนังมีการใช้ “ธรรมชาติ” เป็นทั้งฉากหลังและสัญลักษณ์ในเรื่องอย่างชาญฉลาด ป่าในเรื่องคือทั้งบ้าน สถานที่ขัง และสมรภูมิทางจิตใจของเฮเลนา การถ่ายทำในบึงและป่าชื้นที่มีแสงแดดอ่อน ๆ สะท้อนถึงความสวยงามและอันตรายที่ซ่อนอยู่

4. จุดที่ยังขัดใจในภาพยนตร์

แม้ภาพยนตร์จะวางโครงเรื่องได้น่าสนใจ แต่บางฉากมีจังหวะช้าเกินไป และโทนเรื่องค่อนข้างนิ่งในช่วงกลางเรื่อง หากคุณเป็นคนที่ชอบหนังที่มีจังหวะเร็ว อาจรู้สึกว่าเรื่องเดินช้าและไม่มีฉากไคลแมกซ์ที่สะใจพอ

5. กระแสตอบรับ

ภาพยนตร์ The Marsh King’s Daughter (2023) ได้รับกระแสตอบรับที่หลากหลายจากทั้งนักวิจารณ์และผู้ชม โดยมีทั้งคำชมในด้านการแสดงและบรรยากาศของเรื่อง รวมถึงคำติในเรื่องจังหวะการเล่าเรื่องและบทภาพยนตร์

คะแนนวิจารณ์และผู้ชม

  • Rotten Tomatoes: คะแนนจากนักวิจารณ์อยู่ที่ 41% จาก 46 รีวิว โดยมีคะแนนเฉลี่ย 5.5/10 และคะแนนจากผู้ชมอยู่ที่ 34% จาก 29 รีวิว 

  • Metacritic: คะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ 47/100 จาก 14 รีวิว ซึ่งจัดอยู่ในระดับ “mixed or average reviews”

  • IMDb: คะแนนเฉลี่ยจากผู้ชมอยู่ที่ 6.3/10 จากกว่า 3,300 โหวต

สิ่งที่ได้รับคำชม

    • การแสดงของนักแสดงนำ: Daisy Ridley ในบท Helena ได้รับคำชมว่าแสดงออกถึงความซับซ้อนของตัวละครได้อย่างน่าประทับใจ ขณะที่ Ben Mendelsohn ในบทพ่อผู้ลักพาตัวก็สร้างความน่ากลัวและลึกลับได้ดี ​

    • บรรยากาศและการถ่ายทำ: ภาพยนตร์มีการถ่ายทำในพื้นที่ป่าชื้นและบึงที่สวยงาม ซึ่งช่วยเสริมบรรยากาศของเรื่องและสร้างความรู้สึกของความโดดเดี่ยวและความตึงเครียดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

​ข้อที่ถูกวิจารณ์

  • จังหวะการเล่าเรื่อง: หลายรีวิวชี้ว่าเรื่องราวดำเนินไปอย่างช้าและขาดความตื่นเต้นในบางช่วง ทำให้ผู้ชมบางคนรู้สึกเบื่อหรือไม่สามารถติดตามเรื่องราวได้อย่างต่อเนื่อง​

  • บทภาพยนตร์: แม้จะมีพล็อตที่น่าสนใจ แต่บทภาพยนตร์กลับไม่สามารถถ่ายทอดความลึกซึ้งของเรื่องราวได้อย่างเต็มที่ และมีการดำเนินเรื่องที่คาดเดาได้ง่าย

บทส่งท้าย

The Marsh King’s Daughter ไม่ใช่หนังระทึกขวัญเชิงแอ็กชันแบบเดินเรื่องเร็ว แต่เป็นหนังที่เน้นการขุดลึกเข้าไปในสภาพจิตใจของผู้หญิงคนหนึ่งที่ถูกหล่อหลอมจากความรักแบบบิดเบี้ยวของพ่อผู้ลักพาตัว การเดินทางของเฮเลนาไม่ใช่แค่เพื่อตามล่าพ่อ แต่เพื่อเรียกคืนอิสรภาพที่เธอไม่เคยได้รับอย่างแท้จริง

หากคุณชอบหนังแนวจิตวิทยา ผูกปมด้วยอดีตครอบครัว และตั้งคำถามกับ “สิ่งที่เรารับมาว่าเป็นความรัก”—เรื่องนี้คือหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจ

คะแนนจากผู้เขียน: ★★★★☆ (8/10)
เหมาะกับ: ผู้ชมที่ชื่นชอบหนังแนวจิตวิทยา บรรยากาศป่าเอาชีวิตรอด และความสัมพันธ์ในครอบครัวที่ซับซ้อน

Scroll to Top