
ข้อมูลหนัง
- ชื่อหนัง: The Day the Earth Blew Up: A Looney Tunes Movie ลูนี่ย์ ทูนส์ มูฟวี่ วันซอมบี้บุกโลก
- ปีที่ฉาย:2024
- หมวดหมู่: แอนิเมชัน / ตลก / ไซไฟ / ผจญภัย
- ผู้กำกับ: Pete Browngardt
- ความยาว: 91 นาที
- วันเข้าฉาย: 14 มีนาคม 2025 (สหรัฐอเมริกา)
- คะแนน IMDb: 7.0/10
เรื่องย่อ
ในจักรวาลแอนิเมชันอันคุ้นเคยของ Looney Tunes ความวุ่นวายกำลังจะเปลี่ยนโลกไปตลอดกาล! Daffy Duck และ Porky Pig พบว่าตัวเองต้องเผชิญหน้ากับแผนร้ายของเอเลี่ยนผู้ต้องการยึดครองโลกโดยใช้ “หมากฝรั่งต่างดาว” เป็นอาวุธควบคุมจิตใจมนุษย์! ท่ามกลางสถานการณ์สุดโกลาหล ทั้งคู่ต้องรวมพลังกันเพื่อหยุดยั้งการรุกราน และกลายเป็นฮีโร่จำเป็นที่โลกไม่เคยขอ แต่โลกต้องการที่สุด!
ด้วยกลิ่นอายของหนังไซไฟยุคคลาสสิก ผสมกับความบ้าบออย่างมีสไตล์ของ Looney Tunes ภาพยนตร์เรื่องนี้มอบความบันเทิงไม่หยุดตั้งแต่ต้นจนจบ แถมยังแฝงประเด็นเสียดสีสังคมในแบบขำๆ แต่ก็ชวนให้ขบคิดไม่น้อย
ตัวอย่างหนัง
นักพากย์
Eric Bauza พากย์เสียง Daffy Duck และ Porky Pig
Candi Milo พากย์เสียง Petunia Pig
Peter MacNicol พากย์เสียง The Invader
Fred Tatasciore พากย์เสียง Farmer Jim / นักวิทยาศาสตร์
Wayne Knight พากย์เสียง Mayor
Kimberly Brooks, Laraine Newman, Carlos Alazraqui และอื่นๆ ร่วมให้เสียงตัวละครสมทบ

รีวิวหนัง The Day the Earth Blew Up: A Looney Tunes Movie (2024) ซอมบี้บุกโลก เจ้า Daffy จึงต้องกลายเป็นฮีโร่!
1. ความน่าประทับใจในสไตล์ Looney Tunes คลาสสิก
สิ่งที่ทำให้ The Day the Earth Blew Up โดดเด่นคือการรักษาเอกลักษณ์ของ Looney Tunes ได้อย่างครบถ้วน – ความคึกคะนอง, เสียงหัวเราะจากความวุ่นวายแบบ slapstick และความทะเล้นที่กลายเป็นลายเซ็นของตัวละครอย่าง Daffy Duck และ Porky Pig ผู้กำกับ Pete Browngardt ถ่ายทอดความคลาสสิกนี้ออกมาได้อย่างสนุกสนาน พร้อมเติมลูกเล่นใหม่ๆ ที่ทำให้คนดูทั้งรุ่นเก่าและรุ่นใหม่เอ็นจอยไปพร้อมกัน
2. เนื้อเรื่องสุดล้ำ + หมากฝรั่งควบคุมสมอง
พล็อตเรื่องไซไฟในครั้งนี้อาจดูเวอร์เกินจริงไปหน่อยในสายตาผู้ใหญ่ แต่สำหรับแฟน Looney Tunes มันคือโอกาสทองในการเห็นตัวละครโปรดเข้าไปผจญภัยในเรื่องราวที่ใหญ่กว่าชีวิต – และเมื่อเอเลี่ยนเข้ามาเกี่ยวข้อง พร้อมกับหมากฝรั่งที่เปลี่ยนมนุษย์ให้กลายเป็นซอมบี้ที่ควบคุมได้ ความบันเทิงระดับจักรวาลก็เริ่มต้นขึ้น!
3. เสียงพากย์ที่ทำให้ตัวละครมีชีวิต
Eric Bauza รับบทพากย์ทั้ง Daffy Duck และ Porky Pig ได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะ Daffy ที่กลายเป็นศูนย์กลางของเสียงหัวเราะแทบทุกฉาก Candi Milo ในบท Petunia Pig ก็น่ารักและเติมเต็มมิติใหม่ให้กับเรื่อง ส่วนเสียงของตัวร้ายที่พากย์โดย Peter MacNicol ก็ชวนหลอนพอสมควร – เพิ่มมิติให้กับฝั่งตัวร้ายที่น่าสนใจเกินคาด

4. งานภาพและโทนไซไฟยุค 50
งานแอนิเมชันเน้นลายเส้นคลาสสิก ผสมกลิ่นอายไซไฟย้อนยุค ตั้งแต่ยานอวกาศทรงจานบิน ไปจนถึงหมอกสีเขียวแบบภาพยนตร์ขาวดำยุคเก่า ซึ่งกลายเป็นจุดเด่นที่สร้างเอกลักษณ์ให้กับหนังเรื่องนี้ได้อย่างดี นอกจากนี้ยังมีหลายฉากที่แฝงการอ้างอิงถึงหนังไซไฟในอดีต เช่น The Day the Earth Stood Still หรือ Invasion of the Body Snatchers
5. ตลกขบขันแต่มีชั้นเชิง
แม้จะเต็มไปด้วยมุกตลกแบบการ์ตูน แต่หลายฉากยังแฝงการเสียดสีสังคมสมัยใหม่อย่างแยบยล เช่น ความเชื่อฟังต่อข้อมูลที่ไร้เหตุผล การสื่อสารผิดๆ บนโซเชียล และการแตกแยกของสังคมเพียงเพราะข่าวลือ ภาพยนตร์ทำให้เรื่องหนักกลายเป็นเรื่องขำได้อย่างน่าชื่นชม
6 .จุดที่อาจขัดใจ
หากคุณหวังจะเห็น Bugs Bunny, Tweety, หรือ Marvin the Martian – คุณอาจผิดหวัง เพราะภาพยนตร์เรื่องนี้เลือกโฟกัสไปที่ Daffy และ Porky เป็นหลัก บางช่วงของเรื่องอาจยืดเล็กน้อยในฉากสืบสวนหรืออธิบายแผนเอเลี่ยน ทำให้จังหวะช้าไปเล็กน้อย แต่ก็ไม่ถึงขั้นน่าเบื่อ
บททิ้งท้าย
The Day the Earth Blew Up: A Looney Tunes Movie คือการคืนชีพที่ยิ่งใหญ่ของ Looney Tunes ในรูปแบบภาพยนตร์ไซไฟที่บ้าระห่ำ น่ารัก ตลก และไม่กลัวที่จะทดลองอะไรใหม่ๆ เหมาะสำหรับทุกวัย โดยเฉพาะคนที่เติบโตมากับการ์ตูนชุดนี้