
ข้อมูลหนัง
- ชื่อหนัง: Seobok (ซอบก มนุษย์อมตะ)
- ปีที่ฉาย: 2021
- หมวดหมู่: แอ็คชั่น, ไซไฟ, ดราม่า
- ผู้กำกับ: อี ยงจู (Lee Yong-joo)
- ความยาว: 114 นาที
- วันเข้าฉาย: 15 เมษายน 2021 (เกาหลีใต้)
- คะแนน IMDb: 6.2/10
- ต้นฉบับ: ภาพยนตร์ดัดแปลงจากตำนานจีนเกี่ยวกับ ซอบก ลูกศิษย์ของ สวีฝู ผู้แสวงหายาอมตะให้จักรพรรดิจิ๋นซีฮ่องเต้
นักแสดงหลัก
- กงยู (Gong Yoo) รับบท มินกีฮอน – อดีตสายลับที่ได้รับมอบหมายให้ปกป้องซอบก
- พัคโบกอม (Park Bo-gum) รับบท ซอบก – โคลนนิ่งมนุษย์คนแรกของโลก ผู้มีความสามารถเหนือมนุษย์
- โจอูจิน (Jo Woo-jin) รับบท อันบ๊ก – หัวหน้าฝ่ายวิจัยที่พยายามใช้ซอบกเพื่อผลประโยชน์ขององค์กร
- จางยองนัม (Jang Young-nam) รับบท ดร.อิม เซอึน – นักวิทยาศาสตร์ผู้เกี่ยวข้องกับการทดลองซอบก
ตัวอย่างหนัง Seobok (ซอบก มนุษย์อมตะ)
เรื่องย่อ ซอ บก การเดินทางที่มีชีวิตเป็นเดิมพัน
“Seobok” เป็นภาพยนตร์ที่เล่าถึงเรื่องราวของ มินกีฮอน (Gong Yoo) อดีตสายลับที่ป่วยเป็นโรคร้ายและใช้ชีวิตอย่างสิ้นหวัง วันหนึ่ง เขาได้รับภารกิจจากองค์กรลับให้คุ้มกัน ซอบก (Park Bo-gum) มนุษย์โคลนนิ่งคนแรกของโลกที่ถูกสร้างขึ้นมาให้เป็น อมตะ และมีพลังฟื้นฟูเซลล์ที่สามารถเปลี่ยนโฉมหน้าของวงการแพทย์และมนุษยชาติได้
ซอบกไม่ใช่เพียงแค่โคลนนิ่งธรรมดา แต่เป็นสิ่งมีชีวิตที่ถูกพัฒนาให้มี พลังจิตและสามารถควบคุมสสารได้ ทำให้เขากลายเป็นเป้าหมายของหลายฝ่ายที่ต้องการใช้เขาเป็นอาวุธทางการแพทย์และการทหาร มินกีฮอนและซอบกต้องหลบหนีจากการตามล่าขององค์กรลับและรัฐบาลที่ต้องการควบคุมซอบก ซึ่งระหว่างทาง มิตรภาพระหว่างมนุษย์ผู้ใกล้ตายและโคลนนิ่งผู้เป็นอมตะค่อยๆ ก่อตัวขึ้น

รีวิว Seobok กับคำถามแห่งชีวิต ความตาย และจริยธรรมทางวิทยาศาสตร์
1. บทภาพยนตร์ที่ผสมผสานไซไฟและปรัชญาได้อย่างลงตัว
แม้ว่า “Seobok” จะถูกโปรโมตว่าเป็นหนังไซไฟแอ็คชั่น แต่ในความเป็นจริงแล้ว หนังมีความเป็นดราม่าปรัชญาสูงมาก และตั้งคำถามเกี่ยวกับ ความเป็นมนุษย์, การมีชีวิต และความกลัวต่อความตาย
- มินกีฮอน เป็นตัวแทนของมนุษย์ที่กำลังเผชิญหน้ากับความตาย เขาเต็มไปด้วยความสิ้นหวังและกลัวที่จะต้องจากโลกนี้ไป
- ซอบก กลับเป็นสิ่งมีชีวิตที่ถูกสร้างมาให้ “ไม่มีวันตาย” แต่เขาไม่เคยได้สัมผัสชีวิตจริงๆ เลย
ทั้งสองตัวละครนี้ต่างกันสุดขั้ว แต่กลับสะท้อนกันและกันอย่างน่าประหลาด
2. การแสดงที่ทรงพลังของกงยูและพัคโบกอม
กงยู ถ่ายทอดบทบาทของมินกีฮอนได้อย่างยอดเยี่ยม ชายที่หมดอาลัยตายอยากและไม่เชื่อในอะไรอีกต่อไป แต่กลับค่อยๆ เปลี่ยนไปเมื่อได้ใช้เวลาร่วมกับซอบก ด้าน พัคโบกอม ในบทซอบก เป็นบทบาทที่แตกต่างจากที่เขาเคยเล่นมากที่สุด เขาสามารถถ่ายทอดอารมณ์ของสิ่งมีชีวิตที่ “ไม่ใช่มนุษย์” แต่กลับเต็มไปด้วยความไร้เดียงสาและความสงสัยเกี่ยวกับโลกนี้
- ฉากที่ดีที่สุดของทั้งสองคน คือฉากที่พวกเขานั่งสนทนากันในรถเกี่ยวกับ “ความตาย” และ “ความหมายของการมีชีวิต” เป็นฉากที่เรียบง่ายแต่ทรงพลังที่สุดในเรื่อง
3. งานภาพและการใช้ CGI อย่างมีศิลปะ
“Seobok” ใช้การถ่ายทำที่เน้นโทนสีเย็นและให้ความรู้สึกที่เงียบเหงา การออกแบบฉากของห้องทดลองและเทคโนโลยีต่างๆ ให้ความรู้สึกสมจริงและมีความเป็นไซไฟที่ดูใกล้เคียงกับโลกอนาคตมากกว่าหนังแนวแฟนตาซี
- ฉากไฮไลต์คือ ฉากที่ซอบกใช้พลังจิตควบคุมสสารและทำลายศัตรู เป็นฉากที่สวยงามและมีพลังดึงดูดสายตา
4. ประเด็นทางจริยธรรมและศีลธรรมทางวิทยาศาสตร์
“Seobok” ไม่ใช่แค่หนังเกี่ยวกับมนุษย์โคลนนิ่ง แต่มันเป็น หนังที่ตั้งคำถามเกี่ยวกับความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และศีลธรรม
- ถ้ามีเทคโนโลยีที่ทำให้มนุษย์เป็นอมตะ เราควรใช้มันหรือไม่?
- มนุษย์มีสิทธิ์ในการควบคุมชีวิตของผู้อื่นหรือไม่?
- หากเราสร้างสิ่งมีชีวิตที่ “ไม่มีวันตาย” แต่ไม่มีอิสรภาพ สิ่งนั้นยังถือว่าเป็นมนุษย์หรือไม่?
นี่คือประเด็นที่ภาพยนตร์นำเสนอ และทำให้ผู้ชมต้องขบคิดหลังจากดูจบ
ข้อสังเกตและจุดอ่อนของภาพยนตร์
- หนังอาจจะดำเนินเรื่องช้าและเน้นการสนทนาเชิงปรัชญามากกว่าแอ็คชั่น ซึ่งอาจไม่ถูกใจผู้ที่คาดหวังฉากแอ็คชั่นมันส์ๆ
- บางฉากอาจซับซ้อนและเข้าใจยากสำหรับผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับแนวคิดทางวิทยาศาสตร์และชีวภาพ
สรุปการรีวิว Seobok เป็นหนังไซไฟที่ให้มากกว่าความบันเทิง แต่ให้คำถามเกี่ยวกับชีวิต
“Seobok” ไม่ใช่แค่หนังไซไฟแอ็คชั่น แต่มันเป็น หนังที่สำรวจปรัชญาชีวิตและตั้งคำถามเกี่ยวกับการดำรงอยู่ของมนุษย์ มันเต็มไปด้วยการแสดงที่ทรงพลัง ฉากไซไฟที่สวยงาม และเนื้อเรื่องที่ลึกซึ้ง สำหรับใครที่มองหาหนังที่ให้ความหมายมากกว่าความมันส์ “Seobok” คือคำตอบ