ถ้าคุณคิดว่าแดร็กคูล่าเป็นเพียงปีศาจดูดเลือดในตำนานที่น่ากลัว คุณอาจต้องคิดใหม่เมื่อได้ดู “Renfield” (2023) ภาพยนตร์แอ็กชัน-คอมเมดี้ที่พลิกโฉมตำนานแวมไพร์ ด้วยการเล่าเรื่องในมุมมองของลูกสมุนที่ต้องทนทุกข์ทรมานกับนายจ้างสุด Toxic อย่าง แดร็กคูล่า!
ข้อมูลหนัง
- ชื่อเรื่อง: Renfield เรนฟิลด์
- ปีที่ฉาย: 2023
- หมวดหมู่: แอ็กชัน, คอมเมดี้, สยองขวัญ
- ผู้กำกับ: Chris McKay
- ความยาว: 93 นาที
- วันเข้าฉาย: 14 เมษายน 2023 (สหรัฐอเมริกา)
- คะแนน IMDb: 6.4/10
นักแสดงหลัก
- Nicholas Hoult รับบท Renfield
- Nicolas Cage รับบท Dracula
- Awkwafina รับบท Rebecca Quincy
- Ben Schwartz รับบท Teddy Lobo
- Shohreh Aghdashloo รับบท Ella Lobo
ตัวอย่างหนัง Renfield เรนฟิลด์
เรื่องย่อ
“Renfield” เล่าเรื่องราวของ เรนฟิลด์ (Renfield) ทาสรับใช้ของ แดร็กคูล่า (Dracula) ที่ติดอยู่ในความสัมพันธ์แบบ Toxic Boss & Employee มานานนับศตวรรษ เขาต้องคอยจัดหาเหยื่อให้กับนายจ้างสุดโหด และรับใช้เขาอย่างซื่อสัตย์
แต่เมื่อเรนฟิลด์เริ่มตระหนักว่า เขามีชีวิตของตัวเอง และอาจไม่จำเป็นต้องอยู่ใต้เงาของแดร็กคูล่าอีกต่อไป เขาตัดสินใจพยายามใช้ชีวิตแบบคนธรรมดาในนิวออร์ลีนส์ เขาได้พบกับ รีเบคก้า (Rebecca Quincy) ตำรวจสาวผู้มีความมุ่งมั่นที่จะต่อสู้กับอาชญากรรมในเมือง และเธออาจเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้เรนฟิลด์หลุดพ้นจากอำนาจของแดร็กคูล่า
ปัญหาคือ แดร็กคูล่าไม่ใช่คนที่ปล่อยให้ลูกน้องทรยศได้ง่าย ๆ และเมื่อเขารู้ว่าเรนฟิลด์พยายามออกจากความสัมพันธ์นี้ เขาก็พร้อมจะตามล่าและจัดการทุกอย่างที่ขวางทางเขา
รีวิว Renfield เรนฟิลด์ เมื่อแดร็กคูล่า Toxic เกินรับไหว ทาสรับใช้จึงไม่ขอทน!
1. เมื่อแดร็กคูล่ากลายเป็น "หัวหน้าที่แย่ที่สุด"
ปกติแล้ว เรามักเห็นแดร็กคูล่าในบทบาทของ ราชันย์แห่งรัตติกาลที่น่ากลัว แต่ในเรื่องนี้ Nicolas Cage นำเสนอแดร็กคูล่าในมุมที่ “เล่นใหญ่” และ “มีพิษสง” กว่าที่เคยเป็น เขาคือหัวหน้าที่เอาแต่ใจ ข่มขู่ ขี้บงการ และไม่เคยเห็นค่าของลูกน้อง
- เขาชอบพูดว่า “ฉันให้นายมีพลังอมตะ แต่นายทำอะไรตอบแทนฉันบ้าง?”
- เขาคอยควบคุมเรนฟิลด์ด้วย ความหวาดกลัว และ ความรู้สึกผิด
- เขาไม่ต้องการให้เรนฟิลด์เป็นอิสระ และพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อดึงเขากลับมา
2. แอ็กชันสุดโหดและมันส์ไม่หยุด
แม้จะเป็นหนังคอมเมดี้ แต่ “Renfield” ก็ไม่ได้ขาดฉากบู๊เลือดสาด เรนฟิลด์มีพลังพิเศษจากการกินแมลง (ใช่ อ่านไม่ผิด!) และเมื่อเขาต้องต่อสู้ เขาก็สามารถ ซัดศัตรูปลิว กระชากแขนขา และใช้พลังเหนือมนุษย์ได้อย่างโหดสะใจ
ฉากต่อสู้มีทั้งความมันส์และความตลกแบบ Over-the-Top ที่ทำให้หนังเรื่องนี้แตกต่างจากหนังแอ็กชันทั่วไป
3. Nicolas Cage กับบท Dracula ที่ "บ้า" ที่สุดเท่าที่เคยมีมา
หากคุณเป็นแฟนของ Nicolas Cage คุณจะต้องชอบการแสดงของเขาในเรื่องนี้ เขาทำให้แดร็กคูล่ากลายเป็น ทั้งตัวร้ายที่น่ากลัว และตัวตลกที่น่าขำในเวลาเดียวกัน ท่าทางของเขา สีหน้า และเสียงหัวเราะแบบเวอร์วัง ทำให้ตัวละครนี้โดดเด่นจนแทบขโมยซีนไปหมด
4. การเสียดสี Toxic Relationship ระหว่างคนกับแดร็กคูล่าที่สะท้อนอะไรบางอย่าง
“Renfield” ไม่ใช่แค่หนังแอ็กชันตลกเลือดสาด แต่มันยัง เสียดสีความสัมพันธ์แบบ Toxic ที่หลายคนอาจเคยเจอ ไม่ว่าจะเป็น
- หัวหน้างานที่ชอบควบคุมชีวิตลูกน้อง
- คนรักที่ใช้ความกลัวและความรู้สึกผิดมาบงการอีกฝ่าย
- คนที่ต้องการออกจากความสัมพันธ์แย่ ๆ แต่โดนอีกฝ่ายดึงกลับเสมอ
ทั้งหมดนี้ถูกถ่ายทอดออกมาในรูปแบบของความสัมพันธ์ระหว่าง เรนฟิลด์กับแดร็กคูล่า ซึ่งทำให้หนังมีมิติที่มากกว่าแค่หนังแอ็กชันธรรมดา
5. จุดที่ถูกวิจารณ์ของภาพยนตร์เรื่อง Renfield
- พล็อตค่อนข้างเบาและไม่ได้ลึกมาก – แม้ว่าหนังจะมีแนวคิดที่น่าสนใจ แต่การเล่าเรื่องยังค่อนข้างเรียบง่าย และไม่ได้ลงลึกมากในพัฒนาการของตัวละคร
- บางฉากใช้มุกตลกซ้ำซาก – มุกบางส่วนอาจไม่ได้ผลสำหรับทุกคน โดยเฉพาะคนที่ไม่ชอบตลกแนวโอเวอร์แอ็กติ้ง
- ตัวร้ายรองไม่ได้มีมิติที่น่าสนใจมาก – นอกจากแดร็กคูล่า ตัวร้ายอื่น ๆ ในเรื่องอาจไม่ได้มีความโดดเด่นมากนัก
สรุปการรีวิว Renfield คือหนังแวมไพร์สุดแหวกที่ทั้งฮาและมันส์!
“Renfield” เป็นหนังที่ ผสมความสยองขวัญเข้ากับความตลกและแอ็กชันได้อย่างลงตัว มันเป็นหนังที่เหมาะกับคนที่ชอบหนังแนว แวมไพร์-คอมเมดี้-เลือดสาด และต้องการความบันเทิงแบบไม่ต้องคิดเยอะ แต่ถ้าคุณกำลังมองหาหนังแวมไพร์ที่เข้มข้นและมีเนื้อเรื่องซับซ้อน อาจต้องลองดูเรื่องอื่นแทน
✅ ถ้าคุณชอบ Nicolas Cage เล่นใหญ่ระดับสิบ – ต้องดู!
✅ ถ้าคุณเคยเจอหัวหน้า Toxic แล้วอยากดูหนังที่สื่อถึงมันอย่างสนุกสุด ๆ – ต้องดู!
✅ ถ้าคุณชอบหนังแอ็กชันที่เลือดสาดแบบ Over-the-Top – ต้องดู!
