รีวิวหนัง Men in Black: International (2019) คู่หูใหม่ของ MIB กับภารกิจสุดล้ำระดับโลก

รีวิวหนัง Men in Black: International (2019) คู่หูใหม่ของ MIB กับภารกิจสุดล้ำระดับโลก

ข้อมูลหนัง

  • ชื่อหนัง: Men in Black: International
  • ปีที่ฉาย: 2019
  • หมวดหมู่: แอ็กชัน / คอมเมดี้ / ไซไฟ
  • ผู้กำกับ: F. Gary Gray
  • ความยาว: 115 นาที
  • วันเข้าฉาย: 12 มิถุนายน 2019 (สหรัฐอเมริกา)
  • คะแนน IMDb: 5.6/10

นักแสดง

  • Chris Hemsworth รับบท Agent H
  • Tessa Thompson รับบท Agent M
  • Liam Neeson รับบท High T
  • Emma Thompson รับบท Agent O
  • Rafe Spall รับบท Agent C
  • Kumail Nanjiani ให้เสียงพากย์ Pawny

ตัวอย่างหนัง Men in Black 4 International

เรื่องย่อ Men in Black 4 International เอ็มไอบี หน่วยจารชนสากลพิทักษ์โลก 4

“Men in Black: International” เป็นภาคต่อของแฟรนไชส์ Men in Black ที่โด่งดัง ซึ่งเคยนำแสดงโดย Will Smith และ Tommy Lee Jones ในสามภาคแรก แต่ในครั้งนี้ เรื่องราวจะเปลี่ยนโฟกัสไปที่ตัวละครใหม่ในหน่วย MIB ที่ตั้งอยู่ในลอนดอน

เนื้อเรื่องเล่าถึง Agent M (Tessa Thompson) หญิงสาวที่เคยเห็นเอเลี่ยนตั้งแต่เด็ก และใช้เวลาทั้งชีวิตตามหาหน่วยงาน Men in Black จนในที่สุดเธอสามารถเข้าสู่องค์กรได้สำเร็จ และถูกส่งไปประจำที่สำนักงาน MIB ในลอนดอน ซึ่งเธอได้จับคู่ทำงานกับ Agent H (Chris Hemsworth) เจ้าหน้าที่จอมขี้เล่นที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นฮีโร่ช่วยโลกจากภัยคุกคาม

ขณะเดียวกัน MIB กำลังเผชิญกับศัตรูใหม่ที่เรียกว่า “The Hive” สิ่งมีชีวิตลึกลับที่สามารถแทรกซึมและปลอมตัวเป็นใครก็ได้ รวมถึงอาจมีตัวแปรสำคัญซ่อนอยู่ภายในองค์กรเอง ภารกิจของ Agent M และ Agent H คือการเปิดโปงความจริง และปกป้องโลกจากภัยคุกคามของเอเลี่ยนอีกครั้ง

รีวิวหนัง Men in Black: International (2019) คู่หูใหม่ของ MIB กับภารกิจสุดล้ำระดับโลก

รีวิวหนัง Men in Black: International

1. การรีบูตแฟรนไชส์ ความพยายามที่ดี แต่ยังขาดเสน่ห์เดิม

“Men in Black: International” ตั้งใจจะเป็นการรีเฟรชแฟรนไชส์โดยเปลี่ยนตัวเอกใหม่ และขยายจักรวาล MIB ให้กว้างขึ้นไปทั่วโลก นี่เป็นไอเดียที่ดี เพราะช่วยให้เรื่องราวไม่ย่ำอยู่กับตัวละครเดิม แต่ปัญหาคือ การขาดเสน่ห์และเคมีของคู่หูอย่าง Will Smith และ Tommy Lee Jones ที่เคยทำให้หนังชุดนี้เป็นที่รักของแฟน ๆ

แม้ว่า Chris Hemsworth และ Tessa Thompson จะเคยมีเคมีที่ดีร่วมกันจาก Thor: Ragnarok (2017) แต่ในหนังเรื่องนี้ การจับคู่ของทั้งสองกลับดูไม่ค่อยน่าจดจำ บทพูดและมุกตลกส่วนใหญ่ค่อนข้างจืดชืด และไม่ได้สร้างช่วงเวลาที่โดดเด่นเหมือนภาคก่อน ๆ

2. พล็อตเรื่องและบทภาพยนตร์ที่เรียบง่าย

หนึ่งในปัญหาหลักของหนังคือ บทที่ค่อนข้างเรียบง่ายและขาดความน่าตื่นเต้น ในขณะที่หนังภาคก่อน ๆ มีการเล่นกับแนวคิดเกี่ยวกับเอเลี่ยนในสังคมมนุษย์ และการแฝงอารมณ์ขันที่เฉียบแหลม แต่ในภาคนี้ ทุกอย่างดูเป็นแค่ “ภารกิจตามสูตร” ที่ไม่มีอะไรโดดเด่น

ตัวร้ายอย่าง The Hive ก็ดูไม่น่าจดจำ ทั้งๆ ที่หนังพยายามสร้างปริศนาเกี่ยวกับตัวร้ายภายในองค์กร แต่เมื่อเฉลยออกมา กลับไม่รู้สึกเซอร์ไพรส์ หรือสร้างผลกระทบต่อเรื่องราวมากพอ

3. งานภาพและฉากแอ็กชันที่สวยงาม แต่ขาดความแปลกใหม่

จุดแข็งของหนังคือ งานโปรดักชันที่อลังการและการออกแบบเอเลี่ยนที่ดูดี ฉากในลอนดอน ปารีส และทะเลทรายโมร็อกโกถูกถ่ายทอดออกมาได้สวยงาม และทำให้รู้สึกถึงความเป็น “International” จริง ๆ

ฉากแอ็กชันมีหลายฉากที่ตื่นเต้นพอสมควร โดยเฉพาะการใช้เทคโนโลยีล้ำยุคของ MIB แต่ปัญหาคือ ฉากต่อสู้และไล่ล่ามักจบลงง่ายเกินไป ไม่มีความรู้สึกของความกดดัน หรือเดิมพันที่สูงเหมือนภาคเก่า ๆ

4. Pawny: จุดเด่นที่ช่วยกู้สถานการณ์

หนึ่งในตัวละครที่ช่วยให้หนังมีสีสันมากขึ้นคือ Pawny (ให้เสียงโดย Kumail Nanjiani) เจ้าหุ่นเอเลี่ยนตัวจิ๋วที่มีอารมณ์ขันจัดจ้าน และเป็นตัวขโมยซีน แม้ว่าจะไม่ได้มีบทบาทสำคัญมาก แต่ทุกฉากที่เขาปรากฏตัว มักจะช่วยเพิ่มอารมณ์ขันให้หนังได้ดี

สรุปการรีวิว

“Men in Black: International” เป็นหนังที่มีศักยภาพสูง แต่ยังขาดองค์ประกอบหลายอย่างที่ทำให้ซีรีส์ MIB เป็นที่รักของผู้ชม เคมีของตัวละครนำไม่แข็งแกร่งพอ บทไม่ค่อยมีน้ำหนัก และตัวร้ายไม่ค่อยน่ากลัว

อย่างไรก็ตาม หนังยังคงมีข้อดีบางประการ เช่น งานภาพที่สวยงาม ฉากแอ็กชันที่ดูเพลิน และตัวละคร Pawny ที่เพิ่มความบันเทิง แต่หากเทียบกับภาคเก่า ๆ “Men in Black: International” ยังไม่สามารถเทียบเคียงความยอดเยี่ยมของต้นฉบับได้

ควรค่าแก่การรับชมหรือไม่?

  • ถ้าคุณเป็นแฟนเดนตายของ MIB และอยากดูจักรวาลขยาย ก็ดูได้แบบไม่คาดหวัง
  • ถ้าคุณหวังเคมีคู่หูที่ทรงพลังแบบภาคเก่า อาจต้องผิดหวัง
  • ถ้าคุณแค่อยากดูหนังแอ็กชันไซไฟเบา ๆ ไม่ต้องคิดเยอะ ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่โอเค
Scroll to Top