
ข้อมูลหนัง
- ชื่อหนัง: Killers of the Flower Moon คิลเลอร์ส ออฟ เดอะ ฟลาวเวอร์ มูน
- ปีที่ฉาย: 2023
- หมวดหมู่: ดราม่า / อาชญากรรม / ประวัติศาสตร์
- ผู้กำกับ: Martin Scorsese
- ความยาว: 206 นาที
- วันเข้าฉาย: 19 ตุลาคม 2023 (ไทย)
- คะแนน IMDb: 7.6/10
นักแสดงและบทบาท
- Leonardo DiCaprio รับบท Ernest Burkhart
- Robert De Niro รับบท William Hale
- Lily Gladstone รับบท Mollie Burkhart
- Jesse Plemons รับบท Tom White (เจ้าหน้าที่ FBI)
- Tantoo Cardinal รับบท Lizzie Q
ตัวอย่างหนัง Killers of the Flower Moon คิลเลอร์ส ออฟ เดอะ ฟลาวเวอร์ มูน
เรื่องย่อ Killers of the Flower Moon คิลเลอร์ส ออฟ เดอะ ฟลาวเวอร์ มูน
ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างจากเรื่องจริงของ “Osage Murders” หรือ “การสังหารหมู่โอเซจ” ที่เกิดขึ้นในช่วงปี 1920 เมื่อชนพื้นเมืองอเมริกันเผ่าโอเซจ (Osage) กลายเป็นกลุ่มคนที่ร่ำรวยที่สุดในสหรัฐอเมริกาหลังจากพบแหล่งน้ำมันบนที่ดินของพวกเขา
แต่แทนที่พวกเขาจะใช้ชีวิตอย่างสงบสุข ความมั่งคั่งกลับกลายเป็นภัยร้ายเมื่อชาวผิวขาวเริ่มเข้ามาตีสนิท แต่งงานกับชาวโอเซจ และใช้แผนการต่าง ๆ เพื่อเข้าครอบครองทรัพย์สมบัติ รวมถึงการลอบสังหารพวกเขาอย่างเป็นระบบ
Ernest Burkhart (Leonardo DiCaprio) คือชายหนุ่มที่ถูกลุงของเขา William Hale (Robert De Niro) หลอกใช้ให้เข้าไปแต่งงานกับ Mollie Burkhart (Lily Gladstone) หญิงสาวโอเซจที่เป็นเจ้าของสิทธิในที่ดินน้ำมัน ขณะที่เขาเริ่มต้นด้วยความรักที่จริงใจ แต่เขากลับตกอยู่ในวังวนของอำนาจและความโลภ
เมื่อจำนวนศพเพิ่มขึ้นและรัฐบาลกลางเริ่มเข้ามาสอบสวน FBI ที่เพิ่งก่อตั้งใหม่ส่ง Tom White (Jesse Plemons) เข้าไปตรวจสอบ และนำไปสู่การเปิดโปงโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ที่แสดงให้เห็นถึงความอยุติธรรมและการกดขี่ทางเชื้อชาติในอเมริกา
รีวิวหนัง Killers of the Flower Moon คิลเลอร์ส ออฟ เดอะ ฟลาวเวอร์ มูน
1. "ความโลภที่ฆ่าคนได้" – ระบบอำนาจที่กดขี่และการฆาตกรรมอย่างเป็นระบบ
Killers of the Flower Moon เป็นมากกว่าหนังฆาตกรรม เพราะมันแสดงให้เห็นถึง “ระบบ” ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเอารัดเอาเปรียบชนพื้นเมืองอเมริกัน
- William Hale ไม่ได้เป็นฆาตกรธรรมดา แต่เป็น “ผู้นำชุมชน” ที่มีอำนาจ เชื่อมโยงกับการเมือง ทนาย และตำรวจ ทำให้เขาสามารถฆ่าคนได้โดยไม่ต้องรับผิด
- สิ่งที่ทำให้เหตุการณ์นี้น่ากลัวกว่าฆาตกรรมทั่วไป คือ การวางแผนที่แนบเนียนและกินเวลานานนับสิบปี โดยที่รัฐแทบไม่เข้ามายุ่ง
นี่ไม่ใช่แค่การฆ่าเพื่อเงิน แต่มันคือการ ลบล้างตัวตนของชนพื้นเมืองอเมริกัน

2. "ความรักที่บิดเบี้ยว" – Ernest และ Mollie
ภาพยนตร์เล่าเรื่องจากมุมมองของ Ernest Burkhart ทำให้เห็นว่าเขาเป็น “เหยื่อของระบบ” หรือ “อาชญากรที่เต็มใจ?”
เขารัก Mollie จริงหรือไม่?
ในบางช่วง เขาดูเหมือนจะรักเธออย่างจริงใจ แต่เขาก็ยังช่วยลุงของเขาลอบวางยาเธอ และเป็นส่วนหนึ่งของแผนฆ่าครอบครัวของเธอ สะท้อนถึงความสัมพันธ์ที่ถูกสร้างขึ้นบนอำนาจและการหลอกลวง
ในท้ายที่สุด Mollie คือผู้ที่ต้องสูญเสียมากที่สุด เธอสูญเสียครอบครัว สามีที่เธอรัก และแม้กระทั่งศรัทธาในระบบยุติธรรม
3. "ประวัติศาสตร์ที่อเมริกาต้องการลืม" – ทำไมเรื่องนี้จึงสำคัญ?
- การสังหารหมู่โอเซจไม่ใช่แค่เหตุการณ์ในอดีต แต่มันสะท้อนถึง ระบบที่อเมริกายังเผชิญอยู่
- คนพื้นเมืองยังคงถูกกดขี่ทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรม
- FBI เองก่อตั้งขึ้นจากคดีนี้ แต่ระบบยุติธรรมก็ยังคงมีปัญหาเกี่ยวกับการเหยียดเชื้อชาติ
Scorsese ไม่ได้เล่าเรื่องนี้เพื่อให้เราเศร้า แต่เพื่อให้เราตั้งคำถามว่า “มันจบไปแล้วจริงหรือ?”
4. การแสดงที่ทรงพลัง
- Leonardo DiCaprio นำเสนอตัวละครที่เต็มไปด้วยความขัดแย้งภายใน เขาไม่ใช่ฆาตกรเลือดเย็น แต่ก็ไม่ใช่เหยื่อ
- Robert De Niro สร้างตัวละครที่เยือกเย็นแต่มีเสน่ห์ เขาเป็นศัตรูที่ไม่น่ากลัวแบบโจ่งแจ้ง แต่สามารถ “จัดการ” ทุกอย่างได้เงียบ ๆ
- Lily Gladstone คือดาวเด่นของเรื่อง เธอไม่ต้องพูดอะไรมาก แต่แค่สายตาของเธอก็แสดงถึงความเจ็บปวด
กระแสตอบรับของภาพยนตร์ Killers of the Flower Moon คิลเลอร์ส ออฟ เดอะ ฟลาวเวอร์ มูน
- IMDb: 8.1/10
- Rotten Tomatoes: 92% (นักวิจารณ์) / 85% (ผู้ชม)
- Metacritic: 89/100
ภาพยนตร์ได้รับคำชมมากมาย แต่ก็มีบางเสียงที่วิจารณ์ว่า “ยาวเกินไป” และ “ดำเนินเรื่องช้า” อย่างไรก็ตาม คนที่ให้โอกาสกับหนังจะพบว่ามันเต็มไปด้วยรายละเอียดที่ลึกซึ้ง
จุดเด่นของหนังเรื่อง Killers of the Flower Moon
- การเล่าเรื่องที่ทรงพลัง – Scorsese ทำให้เรารู้สึกเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของเหตุการณ์นี้
- การแสดงระดับมาสเตอร์พีซ – โดยเฉพาะ Lily Gladstone ที่อาจเป็นม้ามืดในเวทีออสการ์
- เนื้อหาทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญ – เปิดเผยด้านมืดของอเมริกาที่คนจำนวนมากไม่รู้
- การกำกับภาพและดนตรีประกอบที่ยอดเยี่ยม
ในส่วนจุดด้อยของภาพยนตร์เรื่องนี้คือ ความยาวของหนัง (206 นาที) อาจทำให้ผู้ชมบางคนรู้สึกเหนื่อย รวมถึงเนื้อหาที่หนักและเต็มไปด้วยรายละเอียด อาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน
โดยสรุป
Killers of the Flower Moon เหมาะกับใคร ?
- คนที่ชอบหนังดราม่าอาชญากรรมที่มีเนื้อหาลึกซึ้ง
- ผู้ที่สนใจประวัติศาสตร์อเมริกันและประเด็นชนพื้นเมือง
- คนที่ชื่นชอบสไตล์การกำกับของ Scorsese
- แฟน ๆ ของ Leonardo DiCaprio, Robert De Niro และ Lily Gladstone
Killers of the Flower Moon เป็นภาพยนตร์ที่ ไม่ใช่แค่หนังฆาตกรรม แต่มันคือภาพสะท้อนของความอยุติธรรมในประวัติศาสตร์ การกำกับที่ละเอียดอ่อน การแสดงที่ยอดเยี่ยม และเนื้อหาที่สะเทือนอารมณ์ ทำให้มันเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่ทรงพลังที่สุดของปี