
ข้อมูลหนัง
- ชื่อหนัง: How to Train Your Dragon
- ชื่อไทย: อภินิหารไวกิ้งพิชิตมังกร
- ปีที่ฉาย: 2025
- หมวดหมู่: แฟนตาซี / ผจญภัย / ครอบครัว
- ผู้กำกับ: Dean DeBlois
- ความยาว: 125 นาที
- วันเข้าฉาย: 13 มิถุนายน 2025 (สหรัฐฯ)
- คะแนน IMDb: 8.1/10 (ข้อมูล ณ วันที่ 12 มิถุนายน 2568)
ตัวอย่างหนัง
เรื่องย่อ
ณ หมู่บ้านชาวไวกิ้งชื่อว่า “เบิร์ก” ที่ถูกมังกรโจมตีเป็นประจำ เด็กหนุ่มผอมบางชื่อ Hiccup Haddock ลูกชายของหัวหน้าเผ่า เป็นคนที่ไม่ถนัดการต่อสู้เหมือนใครในหมู่บ้าน จนวันหนึ่งเขาสามารถยิงมังกรพันธุ์ร้ายในตำนานอย่าง Night Fury ได้สำเร็จ
เมื่อ Hiccup ออกไปตามหาและเจอมังกรที่ตนเองยิง เขากลับ ไม่สามารถลงมือฆ่าได้ และตัดสินใจปล่อยมันไป กลายเป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับมังกร ที่จะเปลี่ยนทุกอย่างที่ชาวเบิร์กเคยเชื่อมาตลอด
Hiccup แอบเลี้ยงและฝึกมังกรตัวนี้ — ที่เขาตั้งชื่อว่า Toothless — และพบว่ามังกรไม่ได้ดุร้ายอย่างที่ใครเข้าใจ แต่มีอารมณ์ มีความรู้สึก และต้องการความเข้าใจเช่นเดียวกัน
ในขณะเดียวกัน Hiccup ต้องเรียนรู้ที่จะยืนหยัดในแบบของตัวเอง เผชิญหน้ากับพ่อของเขา (Stoick the Vast) ที่ไม่เข้าใจในความคิด และเผชิญภัยคุกคามจากมังกรตัวอื่น รวมถึงแรงกดดันจากสังคมที่ต้องการให้เขาเป็น “นักรบ” มากกว่า “ผู้เข้าใจ”
นักแสดงและบทบาท
Mason Thames รับบท Hiccup Horrendous Haddock III
นักแสดงวัยรุ่นจาก The Black Phone ถ่ายทอดบทหัวหน้าเผ่าฝึกหัดที่ไม่เหมือนใครจนกลายเป็นฮีโร่เต็มตัวNico Parker รับบท Astrid Hofferson
เคร่งขรึม แข็งแรง และเป็นทั้งคู่จิ้นและคอมแพนิออนให้กับ HiccupGerard Butler รับบท Stoick the Vast
ผู้นำเผ่าและพ่อของ Hiccup ซึ่ง Butler กลับมาสานต่อบทเสียงที่เขารับตั้งแต่อะนิเมชั่นNick Frost รับบท Gobber the Belch
ช่างตีเหล็กลุงฮา และคุณครูฝึกฝนมังกรของเด็ก ๆ ในหมู่บ้านJulian Dennison รับบท Fishlegs Ingerman
เพื่อนสนิทของ Hiccup และผู้สนใจมังกรเป็นพิเศษGabriel Howell รับบท Snotlout Jorgenson
เด็กหนุ่มนักล้มดีฝ่อ ผู้เป็นทั้งคู่แข่งและคู่กัดของ Hiccup



รีวิวหนัง How to Train Your Dragon (2025) Toothless ยังน่ารักไหม? ในเวอร์ชั่นคนแสดงหรือ Live-Action
ใครที่เติบโตมากับเสียงเพลงประกอบสุดตราตรึง ฉากบินทะลุก้อนเมฆ และมังกรตัวดำตาโตผู้แสนน่ารักอย่าง Toothless คงรู้ดีว่าภาพยนตร์ How to Train Your Dragon ในเวอร์ชันอนิเมชั่นคือหนึ่งในตำนานของ DreamWorks ที่ทั้งสวยงาม อบอุ่น และบาดใจ
ในปี 2025 ผู้กำกับต้นฉบับอย่าง Dean DeBlois หวนคืนสู่โปรเจกต์เดิมอีกครั้ง แต่คราวนี้ในรูปแบบ “คนแสดงจริง” (Live-Action) พร้อมความคาดหวังของแฟนเก่าและสายตาที่เฝ้าจับจ้องจากแฟนใหม่ทั่วโลก คำถามสำคัญคือ… Toothless ยังน่ารักเหมือนเดิมไหม? และภาพจำเก่า ๆ จะยังเวิร์กในโลกจริงหรือไม่?
How to Train Your Dragon (2025) เลือกเดินตามเส้นเรื่องจากฉบับแอนิเมชั่นแทบทุกจุด ตั้งแต่เด็กหนุ่มผอมแห้งอย่าง Hiccup ที่ดูไม่เข้าพวกในหมู่บ้านนักรบ ไปจนถึงเหตุการณ์ที่เขาเผลอจับ Toothless มังกรร้ายในตำนานได้ ก่อนจะกลายเป็นมิตรภาพที่เปลี่ยนแปลงทั้งเผ่าพันธุ์และความเชื่อของชาวเบิร์กไปตลอดกาล
ฉากบินยังคงเป็นไฮไลต์ของเรื่อง — ท้องฟ้าที่ไบรท์แฟลชพาใจลอย กล้องหมุนตามมุมมองเหมือนพาเรานั่งหลังมังกรจริง ๆ และจุดจบของเรื่องก็ยังเปี่ยมด้วยความหวังและอารมณ์ที่ยิ่งใหญ่ในแบบที่ต้นฉบับเคยทำไว้
จุดแข็งของเวอร์ชัน Live-Action เมื่อความคุ้นเคยกลายเป็นข้อจำกัด
- ความละเอียดของ CG & เอฟเฟกต์ มังกรในเรื่องถูกสร้างขึ้นอย่างประณีต โดยเฉพาะ Toothless ที่ยังคงลักษณะ “เหมือนสัตว์เลี้ยงในฝัน” ไว้ครบ ทั้งการเคลื่อนไหว สีหน้า และสายตา เอฟเฟกต์ฉากบินพาใจสั่นไม่แพ้ฉบับอนิเมชั่น และเสียงประกอบยังคงดึงอารมณ์ได้ดีเยี่ยม
- ความรู้สึกเต็มอิ่ม & เหมาะสำหรับครอบครัว เนื้อหาหลักของเรื่องยังคงยึดหัวใจเดิม คือ “ความเข้าใจระหว่างสิ่งมีชีวิตต่างเผ่าพันธุ์” โดยถ่ายทอดผ่านสายสัมพันธ์ของ Hiccup กับ Toothless อย่างงดงาม หนังยังขับเน้นเรื่อง Empathy, การไม่ตัดสินจากภายนอก, และความเปลี่ยนแปลงจากความกลัวไปสู่ความเข้าใจ ได้อย่างละเมียด
- ทีมสร้างร่วมงานเดิม = ความตั้งใจเดิม Dean DeBlois กลับมาควบคุมทั้งบทและการกำกับ ทำให้โทนของหนังยังรักษาความรู้สึกเดียวกับเวอร์ชันแอนิเมชั่นไว้ได้อย่างแนบแน่น ไม่รู้สึกว่าหนังหลงทางหรือถูกตีความใหม่จนเสียโทนเดิม
- การแสดงของ Mason Thames & Gerard Butler Mason ถ่ายทอด Hiccup ได้อย่างเป็นธรรมชาติ — มีทั้งความไม่มั่นใจ ความอ่อนโยน และจังหวะการเติบโตแบบค่อยเป็นค่อยไป ส่วน Gerard Butler ที่กลับมารับบทพ่อ (Stoick) ก็มอบความหนักแน่นและซึ้งกินใจที่น่าประทับใจมากขึ้นกว่าครั้งก่อน
ข้อสังเกตของภาค Live Action
- เนื้อเรื่องค่อนข้างเหมือนต้นฉบับเดิม หลายเสียงวิจารณ์จากสื่อ (เช่น Scott Renshaw จาก City Weekly) ระบุว่า หนังแทบจะยกโครงสร้างมาเป๊ะ จนขาดความรู้สึกใหม่หรือความตื่นเต้นสำหรับผู้ชมที่เคยดูมาแล้ว
- โทนเรื่อง “คุ้นชิน” แต่ไม่ตื่นเต้นเท่าแอนิเมชั่น แม้จะมีฉากแอ็กชันและดราม่า แต่หลายช่วงของหนังกลับรู้สึกเรียบเรื่อย ไม่ได้จุดประกายเท่าฉบับเก่า โดยเฉพาะเมื่อเราเคยประทับใจการออกแบบภาพของอนิเมชั่นที่ลื่นไหลกว่านี้
- จังหวะบางช่วงอืด & ฉากต่อสู้เกินครึ่ง มีบางฉากที่รู้สึกว่ายืดยาวเกินความจำเป็น โดยเฉพาะฉากฝึกมังกรหรือต่อสู้ที่ใช้สโลว์โมชั่นและเอฟเฟกต์มากกว่าจำเป็น
- อารมณ์บางอย่างของตัวละครดูจืดลง ตัวละครอย่าง Astrid ที่เคยมีคาแรกเตอร์ชัดเจนในเวอร์ชันก่อน กลับถูกลดบทบาทให้เป็นเพียงแรงสนับสนุนเบา ๆ มากกว่าผู้มีพลังในเรื่องราว
คะแนนเฉลี่ย:
จาก Rotten Tomatoes มาแรงที่ประมาณ 4/5
Metacritic ประมาณ 59/100 เตือนว่าเป็นผลงาน “ดีแต่ไม่ยอดเยี่ยม”
บทส่งท้าย
How to Train Your Dragon (2025) คือหนังที่ “สวยงาม” และ “อบอุ่น” อย่างซื่อสัตย์ต่อฉบับดั้งเดิม ไม่ว่าจะเป็นโครงเรื่อง มิตรภาพ หรือแม้แต่เสียงดนตรีประกอบที่คุ้นเคย แต่ในความใกล้เคียงนั้นเอง… ก็อาจทำให้ผู้ชมบางกลุ่มรู้สึกว่า หนังไม่ได้สร้างประสบการณ์ใหม่ หรือปลุกพลังสร้างสรรค์ให้กับเรื่องที่มีศักยภาพมากพอจะตีความใหม่ได้หลากหลายกว่านี้
อย่างไรก็ตาม นี่คือหนังที่ยังมอบ ความสุขแบบปลอดภัย และ ความสัมพันธ์อันงดงามระหว่างมนุษย์กับสิ่งมีชีวิตที่แตกต่าง ได้อย่างจริงใจ — โดยเฉพาะกับผู้ชมที่เปิดใจ หรืออยากกลับไปเยี่ยม “โลกของเบิร์ก” อีกครั้งด้วยสายตาที่เติบโตขึ้น
Toothless อาจไม่ได้ใหม่… แต่น่ารักเหมือนเดิมแน่นอน และ Hiccup ในโลกคนแสดง ก็ยังเป็นสัญลักษณ์ของการเติบโตที่งดงามในแบบที่ใครก็เข้าถึงได้ ไม่ว่าจะวัยไหน