
ข้อมูลหนัง
- ชื่อหนัง: Gods of Egypt
- ปีที่ฉาย: 2016
- หมวดหมู่: แอ็กชัน / ผจญภัย / แฟนตาซี
- ผู้กำกับ: อเล็กซ์ โปรยาส (Alex Proyas)
- ความยาว: 127 นาที
- วันเข้าฉาย: 25 กุมภาพันธ์ 2016 (ประเทศไทย), 26 กุมภาพันธ์ 2016 (สหรัฐอเมริกา)
- คะแนน IMDb: 5.4/10
- คะแนน Rotten Tomatoes: 16%
- งบประมาณ: ประมาณ $140 ล้านเหรียญ
- รายได้รวมทั่วโลก: ประมาณ $150 ล้านเหรียญ
นักแสดง
นิโคไล คอสเตอร์-วัลดาอู (Nikolaj Coster-Waldau) รับบท เทพฮอรัส
เจอราร์ด บัตเลอร์ (Gerard Butler) รับบท เทพเซธ
เบรนตัน ทเวทส์ (Brenton Thwaites) รับบท เบ็ค
เอลอดี ยุง (Élodie Yung) รับบท เทพีฮาโธร์
คอร์ทนีย์ อีตัน (Courtney Eaton) รับบท ไซยา
เจฟฟรีย์ รัช (Geoffrey Rush) รับบท เทพรา
ตัวอย่าง Gods of Egypt สงครามเทวดา
เรื่องย่อ
ในโลกแฟนตาซีที่เทพเจ้าดำรงอยู่ร่วมกับมนุษย์ ณ อียิปต์โบราณ เทพเซธ ผู้เป็นเทพแห่งทะเลทรายและความโกลาหล ได้ก่อกบฏและยึดบัลลังก์จากเทพฮอรัส ผู้เป็นเทพแห่งท้องฟ้า ทำให้โลกตกอยู่ในความมืดมิด
เบ็ค มนุษย์หนุ่มผู้กล้าหาญได้ร่วมมือกับเทพฮอรัส เพื่อกอบกู้อียิปต์และชุบชีวิตคนรักที่เสียไป ภารกิจของเขาทั้งคู่จึงเป็นการเดินทางผ่านแดนเทพ การต่อสู้สุดอลังการ และการท้าทายต่อโชคชะตา

รีวิว Gods of Egypt สงครามเทวดา
1. แฟนตาซีอลังการในระดับเทพ...แต่ไม่ไร้ที่ติ
Gods of Egypt เป็นภาพยนตร์ที่เน้นความบันเทิงแบบเต็มรูปแบบ ด้วยองค์ประกอบของ CGI ที่จัดเต็มแทบทุกฉาก ไม่ว่าจะเป็นฉากต่อสู้ระหว่างเทพ ฉากการแปลงร่าง ฉากพาหนะลอยฟ้า หรือการเดินทางไปยังโลกหลังความตาย ทุกอย่างถูกออกแบบมาให้ยิ่งใหญ่และเวอร์วังแบบสุดขั้ว
ผู้กำกับ Alex Proyas ที่เคยมีผลงานเด่นอย่าง The Crow และ I, Robot พยายามสร้างโลกอียิปต์ในแบบแฟนตาซีเหนือจินตนาการมากกว่าการยึดตามตำนานจริง ซึ่งก็ถือเป็นแนวทางที่ชัดเจนว่า หนังไม่ได้ต้องการความถูกต้องทางประวัติศาสตร์ แต่มุ่งสู่ความ “มันส์” แบบไซไฟแฟนตาซี
2. การแสดง: บทดีไม่มาก แต่นักแสดงพยายามอย่างเต็มที่
Nikolaj Coster-Waldau (ที่เราคุ้นหน้าจาก Game of Thrones) พยายามดึงความน่าเชื่อถือให้กับเทพฮอรัส แม้บทจะไม่ลึกนัก ส่วน Gerard Butler รับบทเซธได้ดุดันและทรงพลังตามสไตล์ตัวร้ายกล้ามโต แต่บางครั้งก็ดูเกินพอดี
Brenton Thwaites ในบทเบ็คพยายามเป็นตัวแทนของมนุษย์ธรรมดาที่กล้าลุกขึ้นสู้ ทว่าการเขียนบทที่ไม่ลึกพอทำให้เขาอาจดูขาดเสน่ห์สำหรับบางคน
3. งานสร้าง: จุดแข็งที่กลายเป็นจุดอ่อน
CGI ในเรื่องนี้ทั้งอลังการและ “เยอะมาก” จนบางครั้งกลายเป็นการรบกวนความสมจริง หลายฉากแม้จะตั้งใจให้ตื่นตา แต่กลับให้ความรู้สึกคล้ายเกมมากกว่าภาพยนตร์ บางคนอาจมองว่าสนุกดี แต่หลายคนก็รู้สึกหลุดจากอารมณ์
อีกหนึ่งประเด็นที่ถูกวิจารณ์หนักคือ การคัดเลือกนักแสดงผิวขาวมารับบทเทพอียิปต์ ซึ่งถูกเรียกว่า “whitewashing” ทำให้หนังได้รับเสียงตำหนิด้านความหลากหลายและวัฒนธรรม
จุดที่ทำให้คิดตามของภาพยนตร์
แม้จะเป็นมนุษย์ธรรมดา แต่หัวใจที่กล้าหาญก็สามารถต่อกรกับโชคชะตาได้
หนังเสนอแนวคิดคลาสสิกที่ว่า ความกล้าหาญและความรัก สามารถผลักดันให้คนธรรมดาทำสิ่งยิ่งใหญ่อำนาจที่ไม่มีความรัก ย่อมนำมาซึ่งการล่มสลาย
ตัวละครเซธเป็นตัวอย่างของเทพเจ้าผู้หมกมุ่นในอำนาจ แต่ขาดเมตตา จนท้ายที่สุดแม้แต่เทพก็ไม่อาจต้านทานความพินาศได้การให้อภัยและการยอมรับความผิด คือกุญแจสู่การฟื้นฟู
ฮอรัสเรียนรู้ที่จะถ่อมตนและเข้าใจคุณค่าของมนุษย์ ไม่ใช่แค่เพราะพลัง แต่เพราะหัวใจ
สรุปการรีวิว
Gods of Egypt เป็นหนังแอ็กชันแฟนตาซีที่เหมาะสำหรับผู้ชมที่ต้องการ “ความบันเทิงแบบไม่ต้องคิดมาก” ด้วยฉากต่อสู้มันส์ ๆ โลกที่อลังการ และเทพเจ้าที่แปลงร่างได้กลางอากาศ
แม้จะมีข้อบกพร่องในด้านบท การพัฒนาเนื้อเรื่อง และประเด็นความหลากหลายทางวัฒนธรรม แต่หากคุณเป็นคนที่ชอบภาพยนตร์สไตล์เทพเจ้า/สงครามแฟนตาซีอลังการ และไม่ซีเรียสกับความสมจริง หนังเรื่องนี้อาจจะ “ดูเพลิน” ได้แบบ guilty pleasure
“เทพเจ้าสู้กันแบบจัดเต็ม ฉากใหญ่ใจถึง แต่ขาดหัวใจและความลึกในเนื้อหา — เหมาะกับคนดูสายภาพสวยเอามันส์”