ข้อมูลหนัง
- ชื่อหนัง: Demon City (เมืองอสูร)
- ปีที่ฉาย: 2025
- หมวดหมู่: แอ็กชัน, ระทึกขวัญ, นีโอนัวร์
- ผู้กำกับ: เซอิจิ ทานากะ (Seiji Tanaka)
- ความยาว: 1 ชั่วโมง 47 นาที
- วันเข้าฉาย: 27 กุมภาพันธ์ 2025 (Netflix)
- คะแนน IMDb: 5.5/10
นักแสดงและบทบาท
- โทมะ อิคุตะ (Toma Ikuta) รับบท ชูเฮ ซากาตะ – อดีตนักฆ่าผู้สูญเสียทุกสิ่ง และต้องกลับมาเพื่อล้างแค้น
- มาซาฮิโระ ฮิกาชิเดะ (Masahiro Higashide) รับบท ฟูจิตะ – นักฆ่าคู่ปรับที่เป็นเงาตามตัวของซากาตะ
- มิโอะ ทานากะ (Mio Tanaka) รับบท เรย์โกะ – หญิงสาวลึกลับที่เกี่ยวข้องกับข้อตกลงใต้ดินของแก๊งอาชญากร
- ไม คิริว (Mai Kiryu) รับบท มิกะ – นักข่าวอิสระที่พยายามเปิดโปงองค์กรใต้ดิน
- นาโอโตะ ทาเคนากะ (Naoto Takenaka) รับบท คิเมระ – หัวหน้าแก๊งมาเฟียผู้โหดเหี้ยมที่ควบคุมเมืองจากเงามืด
ตัวอย่างหนัง Demon City เมืองอสูร
เรื่องย่อ Demon City เมืองอสูร
Demon City เป็นภาพยนตร์แอ็กชันระทึกขวัญที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก film noir และ cyberpunk เล่าเรื่องราวของ ชูเฮ ซากาตะ (โทมะ อิคุตะ) อดีตนักฆ่าฝีมือฉกาจที่ถูกหักหลังและสูญเสียครอบครัวจากฝีมือขององค์กรมาเฟียที่ปกครองเมือง ภายใต้การนำของ คิเมระ (นาโอโตะ ทาเคนากะ)
ซากาตะรอดชีวิตจากการลอบสังหาร แต่ได้รับบาดเจ็บสาหัส และต้องซ่อนตัวเป็นเวลากว่าทศวรรษ จนกระทั่งเขากลับมาในฐานะ “เงาแห่งการล้างแค้น” พร้อมเป้าหมายเดียว—ทำลายอำนาจของคิเมระให้สิ้นซาก ระหว่างทางเขาได้พบกับ เรย์โกะ (มิโอะ ทานากะ) หญิงสาวที่อาจมีเบื้องหลังลึกกว่าที่คิด และ มิกะ (ไม คิริว) นักข่าวที่กำลังเปิดโปงขบวนการของแก๊งมาเฟีย ขณะเดียวกัน ฟูจิตะ (มาซาฮิโระ ฮิกาชิเดะ) นักฆ่ามือขวาของคิเมระ ก็ได้รับคำสั่งให้ไล่ล่าซากาตะ
เมื่อเส้นแบ่งระหว่างความยุติธรรมและความโหดเหี้ยมเริ่มพร่าเลือน ซากาตะต้องเผชิญกับทางเลือกที่ยากลำบาก—เขาจะเป็นเพียงปีศาจที่ถูกปลุกขึ้นมาเพื่อแก้แค้น หรือจะกลายเป็นผู้กอบกู้เมืองที่ตกอยู่ในเงื้อมมือของปีศาจที่แท้จริง
รีวิวหนัง Demon City เมืองอสูร หนังแอ็กชันดิบ เถื่อน แต่มีสไตล์
เซอิจิ ทานากะ ขึ้นชื่อเรื่องการสร้างภาพยนตร์ที่ดิบและสมจริง (Melancholic และ Midnight Swan) และ Demon City ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น หนังเรื่องนี้โดดเด่นด้วย ฉากแอ็กชันที่หนักแน่นและดุดัน พร้อมสไตล์การเล่าเรื่องแบบ film noir ที่มีบรรยากาศหม่นหมองและความรุนแรงที่ไม่ถูกลดทอน
ประเด็นที่น่าสนใจในภาพยนตร์
1. การถ่ายทอดบรรยากาศของ "Demon City" ที่เป็นทั้งสัญลักษณ์และสนามรบ
ตัวเมืองใน Demon City ถูกถ่ายทอดออกมาอย่างงดงามและกดดันไปพร้อมกัน เมืองนี้เต็มไปด้วยตรอกซอกซอยที่เปียกชื้นจากฝน แสงไฟนีออนสีแดงและม่วงสะท้อนถึงโลกที่เต็มไปด้วยบาปและความหวาดกลัว หนังเลือกใช้โลเคชันที่เต็มไปด้วยซากอาคารเก่าและสถานที่รกร้าง ซึ่งสื่อถึงเมืองที่ถูกควบคุมโดยอำนาจมืด
การออกแบบฉากคล้ายกับภาพยนตร์อย่าง John Wick ผสมกับ Blade Runner แต่เพิ่มความเป็น Japanese noir เข้าไป ทำให้เมืองนี้มีเสน่ห์และความลึกลับในแบบของมันเอง
2. ฉากแอ็กชันที่จัดจ้าน
Demon City ไม่ใช่หนังที่เน้นฉากต่อสู้แบบ “ฮีโร่ vs วายร้าย” ทั่วไป ทุกฉากบู๊ถูกออกแบบมาให้ดูสมจริง มีทั้งการใช้มือเปล่า มีด และอาวุธปืน ฉากไล่ล่าบนดาดฟ้าและในอุโมงค์ใต้ดินเป็นหนึ่งในฉากที่ตื่นเต้นและทำให้ผู้ชมต้องลุ้นระทึก
ฉากที่เป็นไฮไลต์ของเรื่องคือ การปะทะกันระหว่างซากาตะและฟูจิตะ ที่ใช้ทั้งดาบและปืนในพื้นที่แคบ เป็นการต่อสู้ที่ดิบและโหดแบบไม่มีสแตนด์อิน
3. ธีมของ "ปีศาจภายใน" และความหมายของการล้างแค้น
หนึ่งในประเด็นหลักของเรื่องคือ เส้นแบ่งระหว่างคนธรรมดาและปีศาจ ซากาตะเคยเป็นนักฆ่าที่มีหลักการ แต่การล้างแค้นได้ทำให้เขากลายเป็นอสูรในแบบที่เขาไม่เคยต้องการ ขณะที่ฟูจิตะเป็นตัวแทนของ “เงาของซากาตะ” ที่ถูกขังอยู่ในวัฏจักรแห่งความรุนแรง
ภาพยนตร์ใช้การเปรียบเทียบ “ปีศาจ” และ “มนุษย์” เพื่อแสดงให้เห็นว่าในโลกของอาชญากรรม ไม่มีใครเป็นคนดีจริง ๆ และบางครั้งความยุติธรรมก็เป็นเพียงคำลวง
จุดแข็งของภาพยนตร์เรื่อง Demon City
- ภาพและบรรยากาศที่สวยงามและดิบเถื่อน – หนังใช้สีสันและเงาเพื่อสร้างอารมณ์ที่เหมาะกับเรื่องราว
- ฉากแอ็กชันที่สมจริง – ไม่มีการใช้ CGI เวอร์ ๆ ทุกฉากดูหนักแน่นและรุนแรง
- ตัวละครที่มีมิติและความขัดแย้งภายใน – โดยเฉพาะตัวซากาตะที่ต้องต่อสู้กับปีศาจภายในของตัวเอง
- เพลงประกอบที่เพิ่มความระทึก – ใช้ดนตรีสไตล์ synthwave ผสมกับเครื่องสายญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม
จุดที่ถูกวิจารณ์ของภาพยนตร์เรื่อง Demon City
- เนื้อเรื่องอาจไม่ซับซ้อนมากนัก – หนังไม่ได้มีพล็อตหักมุมแบบ Inception แต่เน้นที่การเล่าเรื่องตรงไปตรงมา
- มีฉากรุนแรงที่อาจไม่เหมาะกับทุกคน – มีฉากเลือดสาดและฉากทรมานที่ดูสมจริง
สรุปการรีวิว
Demon City เป็นหนังแอ็กชันระทึกขวัญที่มีทั้งความรุนแรง ความสวยงาม และความหมายในเวลาเดียวกัน เหมาะสำหรับแฟนหนังแนว film noir และ revenge thriller ที่ต้องการภาพยนตร์ที่มีสไตล์เฉพาะตัว
เหมาะสำหรับ: คนที่ชอบหนังแอ็กชันที่มีเนื้อหาเข้มข้น และแฟนหนังญี่ปุ่นแนว noir
ไม่เหมาะสำหรับ: คนที่ไม่ชอบหนังที่มีความรุนแรงสูง
