รีวิวหนัง Attack on Titan the Movie: The Last Attack (2024) บทสรุปมหากาพย์แห่งสงครามไททัน

รีวิวหนัง Attack on Titan the Movie: The Last Attack (2024) บทสรุปมหากาพย์แห่งสงครามไททัน

ข้อมูลหนัง

  • ชื่อหนัง: Attack on Titan the Movie: The Last Attack (ผ่าพิภพไททัน การจู่โจมครั้งสุดท้าย)
  • ปีที่ฉาย: 2024
  • หมวดหมู่: แอนิเมชัน, แอ็คชัน, ดราม่า, แฟนตาซี
  • ผู้กำกับ: ยูอิจิโระ ฮายาชิ (Yûichirô Hayashi)
  • ความยาว: 145 นาที
  • วันเข้าฉาย: 20 กุมภาพันธ์ 2025 (ประเทศไทย)
  • คะแนน IMDb: 9.3/10

นักแสดงหลัก (นักพากย์)

  • ยูกิ คาจิ (Yûki Kaji) ให้เสียง เอเรน เยเกอร์
  • ยูอิ อิชิคาวะ (Yui Ishikawa) ให้เสียง มิคาสะ แอคเคอร์แมน
  • มารินะ อิโนะอุเอะ (Marina Inoue) ให้เสียง อาร์มิน อาร์เลิร์ต
  • โยชิมาสะ โฮโซยะ (Yoshimasa Hosoya) ให้เสียง ไรเนอร์ บราวน์
  • ฮิโรชิ คามิยะ (Hiroshi Kamiya) ให้เสียง รีไว แอคเคอร์แมน

ตัวอย่างหนัง Attack on Titan the Movie: The Last Attack

เรื่องย่อ สงครามที่เดิมพันด้วยชะตากรรมของโลก

“Attack on Titan the Movie: The Last Attack” เป็นบทสรุปของมหากาพย์สงครามไททันที่ดำเนินมากว่า 10 ปี ภาคนี้เริ่มต้นหลังจากที่ เอเรน เยเกอร์ ปลดปล่อยพลังของไททันบรรพบุรุษและเปิดใช้งาน The Rumbling หรือ คลื่นไททันมรณะ ซึ่งเป็นการปลุกไททันมหึมานับล้านตัวให้เดินทัพทำลายโลกภายนอก

เอเรนมุ่งมั่นที่จะกวาดล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่ไม่ใช่เอลเดีย เพื่อให้แน่ใจว่าเกาะพาราดิสและประชาชนของเขาจะไม่ถูกทำลายอีกต่อไป แต่ในขณะเดียวกัน อาร์มิน, มิคาสะ, รีไว, ไรเนอร์ และพันธมิตรจากหลายฝ่าย ต่างรวมตัวกันเพื่อต่อต้านเอเรน ด้วยความหวังว่าจะสามารถหยุดยั้งเขาก่อนที่โลกจะถึงกาลอวสาน

ท่ามกลางสงครามที่เต็มไปด้วยเลือดและน้ำตา กลุ่มพันธมิตรต้องเผชิญกับคำถามที่ยากที่สุด – เอเรนยังสามารถช่วยเหลือได้หรือไม่? หรือเขาได้กลายเป็นปีศาจไปแล้วอย่างสมบูรณ์?

รีวิวหนัง Attack on Titan the Movie: The Last Attack (2024) บทสรุปมหากาพย์แห่งสงครามไททัน

รีวิว Attack on Titan the Movie: The Last Attack สมกับเป็นบทสรุปของตำนานหรือไม่?

1. ฉากแอ็คชันสุดระทึก ที่สะท้อนพลังของไททันในระดับที่เหนือกว่าทุกภาค

ภาพยนตร์เรื่องนี้นำเสนอฉากแอ็คชันที่ ยิ่งใหญ่และทรงพลังที่สุดในแฟรนไชส์ Attack on Titan ไม่ว่าจะเป็นฉากไททันมหึมาเหยียบทำลายเมือง ฉากต่อสู้กลางอากาศระหว่างรีไวและกองกำลังต่อต้าน หรือฉากสุดท้ายที่มิคาสะและอาร์มินเผชิญหน้ากับเอเรนในร่างสุดท้ายของเขา

การใช้แอนิเมชันแบบ 3D และ 2D ผสมผสานกันอย่างลงตัว ทำให้การเคลื่อนไหวของไททันดูหนักแน่นและสมจริง เอฟเฟกต์เสียงและมุมกล้องช่วยเพิ่มอารมณ์ความตึงเครียดในทุกฉากต่อสู้

2. การพัฒนาตัวละครที่ทำให้ผู้ชมต้องเสียน้ำตา

“Attack on Titan the Movie: The Last Attack” ไม่ได้เป็นเพียงแค่หนังแอ็คชันที่เต็มไปด้วยฉากต่อสู้ แต่มันเป็น ภาพยนตร์ที่พูดถึงความซับซ้อนของมนุษย์ ตัวละครแต่ละตัวในเรื่องมีการเติบโตอย่างชัดเจน โดยเฉพาะ เอเรน เยเกอร์

  • เอเรน เยเกอร์ – จากเด็กชายที่เคยมีความฝันอิสระ กลายเป็นบุคคลที่แบกภาระของโลกไว้บนบ่า เขาเป็นวีรบุรุษ หรือปีศาจ? เป็นคำถามที่ภาพยนตร์สะท้อนให้เห็นตลอดเรื่อง
  • มิคาสะ แอคเคอร์แมน – จากนักรบที่คอยปกป้องเอเรน กลับต้องเผชิญกับความจริงว่าเธออาจต้องเป็นคนที่ฆ่าเขา
  • อาร์มิน อาร์เลิร์ต – การเติบโตของเขาในฐานะผู้นำที่ต้องตัดสินใจเรื่องยากๆ เพื่อความอยู่รอดของโลก

3. งานสร้างที่ยิ่งใหญ่และเพลงประกอบที่เสริมความอลังการ

งานภาพของภาพยนตร์เรื่องนี้ถือว่า ทำออกมาได้ยอดเยี่ยม ฉากสงครามมีรายละเอียดสูงมาก ไม่ว่าจะเป็นเงาสะท้อนของไททันที่เดินเหยียบเมือง หรือสีหน้าของตัวละครที่สะท้อนอารมณ์ความรู้สึกได้อย่างสมจริง

ดนตรีประกอบจาก Hiroyuki Sawano ยังคงเป็นจุดแข็งของแฟรนไชส์ เพลง “Ashes on the Fire” และ “Call of Silence” ถูกนำมาใช้ในฉากสำคัญ ทำให้ผู้ชมขนลุกและมีอารมณ์ร่วมไปกับเหตุการณ์ต่างๆ

4. ประเด็นทางศีลธรรมที่ท้าทายผู้ชม

ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้มีเพียงฉากต่อสู้เท่านั้น แต่ยังเต็มไปด้วย คำถามทางศีลธรรม เช่น

  • การทำลายล้างโลกของเอเรน เป็นการกระทำที่ถูกต้องหรือไม่?
  • มิคาสะและอาร์มิน ควรจะหยุดเอเรนหรือพยายามช่วยเขา?
  • ถ้าคุณเป็นชาวเอลเดีย คุณจะเลือกทำลายโลกเพื่อความอยู่รอดของเผ่าพันธุ์ตัวเองหรือไม่?

5. จุดที่ถูกวิจารณ์ของภาพยนตร์ Attack on Titan the Movie: The Last Attack

  • ฉากการอธิบายเรื่องราวบางจุดอาจยืดเยื้อไปบ้าง โดยเฉพาะช่วงที่ตัวละครพูดคุยเกี่ยวกับอดีต
  • ผู้ที่ไม่เคยดูอนิเมะหรืออ่านมังงะมาก่อนอาจเข้าใจเรื่องราวได้ยาก เพราะภาพยนตร์ไม่มีการเกริ่นนำตัวละคร

สรุปการรีวิว Attack on Titan the Movie: The Last Attack คือบทสรุปที่สมบูรณ์แบบหรือไม่?

“Attack on Titan the Movie: The Last Attack” เป็นภาพยนตร์ที่สมบูรณ์แบบในการปิดฉากตำนานของแฟรนไชส์นี้ มันเต็มไปด้วยฉากแอ็คชันสุดอลังการ การเล่าเรื่องที่เข้มข้น และประเด็นศีลธรรมที่ทำให้ผู้ชมต้องขบคิด

ไม่ว่าคุณจะเป็นแฟนของ Attack on Titan มายาวนาน หรือเป็นผู้ชมใหม่ที่สนใจเนื้อหาเกี่ยวกับสงครามและมนุษยธรรม นี่คือภาพยนตร์ที่คุณควรรับชม!

Scroll to Top