
ข้อมูลหนัง
- ชื่อเรื่อง: The Continental: From the World of John Wick
- ปีที่ฉาย: 2023
- หมวดหมู่: แอ็กชัน / อาชญากรรม / ดราม่า
- ผู้กำกับ: Albert Hughes (EP1 & 3), Charlotte Brändström (EP2)
- จำนวนตอน: 3 ตอน (ตอนละประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที)
- วันฉาย: 22 กันยายน – 6 ตุลาคม 2023
- ความยาวรวม: ประมาณ 4 ชั่วโมงครึ่ง
- แพลตฟอร์ม: Peacock (สหรัฐฯ), Prime Video (ไทย)
- คะแนน IMDb: 7.1 / 10
ตัวอย่าง
เรื่องย่อ
ในมหานครนิวยอร์กยุค 1970s ที่เต็มไปด้วยควันปืน ดนตรีดิสโก้ และสงครามเย็นทางอำนาจ The Continental คือโรงแรมศักดิ์สิทธิ์ที่เหล่านักฆ่าใช้เป็นสถานที่ปลอดภัย—ไม่มีใครสามารถฆ่ากันในนี้ได้
เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อ Frankie Scott ขโมยบางสิ่งที่ “ไม่ควรขโมย” จากโรงแรม The Continental ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของ Cormac อดีตพ่อเลี้ยงผู้โหดเหี้ยม เมื่อ Frankie หายตัวไป Winston Scott ผู้เป็นน้องชายซึ่งตัดขาดจากโลกนักฆ่ามานาน ถูกบังคับให้กลับเข้าสู่นรกอีกครั้ง
เขาต้องรวมกลุ่มพันธมิตรนอกระบบเพื่อโค่นล้มผู้ปกครองของ Continental และสถาปนาเส้นทางที่ต่อมากลายเป็น “Winston” ผู้จัดการโรงแรมระดับตำนานในจักรวาล John Wick
นักแสดง
Colin Woodell รับบท Winston Scott – ชายหนุ่มผู้ถูกดึงกลับสู่โลกอาชญากรรมเพื่อล้มระบอบเก่าและสร้างอำนาจใหม่
Mel Gibson รับบท Cormac O’Connor – ผู้จัดการ The Continental คนปัจจุบัน ผู้ปกครองด้วยกำปั้นเหล็ก
Ayomide Adegun รับบท Charon – มือขวาผู้ภักดีของ Winston (เวอร์ชันวัยหนุ่ม)
Ben Robson, Nhung Kate, Hubert Point-Du Jour, และนักแสดงสมทบอีกมากมาย



รีวิวซีรีส์ The Continental (2023) เปิดตำนานโรงแรมนักฆ่าแห่งจักรวาล John Wick ที่ไม่มีใครกล้าแตะ
1. โทนย้อนยุคของซีรีส์
The Continental ไม่ได้แค่ใช้ยุค 70s เป็นพื้นหลัง แต่กลืนกลายเข้าไปในทุกอณูของซีรีส์ — จากเสื้อผ้า เพลงประกอบ ไปจนถึงการจัดแสง ภาพ และจังหวะการตัดต่อ ทุกอย่างช่วยสร้างโลกที่ทั้ง “เท่-ดิบ-น่าเกรงขาม” จนคนดูรู้สึกว่า นี่คือโรงแรมที่ John Wick จะเติบโตขึ้นในอนาคต
2. วิเคราะห์ตัวละคร
- ตัวละคร Winston ตอนหนุ่ม (ยังไม่เท่า Ian McShane แต่มีเสน่ห์ในแบบของตัวเอง) Colin Woodell ทำหน้าที่ได้ดีในฐานะ Winston รุ่นหนุ่ม เขาไม่พยายามเลียนแบบ Ian McShane แต่ค่อยๆ สร้างเส้นทางของตัวเองผ่านเสน่ห์ การวางแผน และการต่อกรกับกลุ่มอิทธิพลที่ใหญ่เกินตัว แม้จะแอบรู้สึกว่า “ออร่าความลุ่มลึก” ยังไม่ถึงขั้นของตัวละครต้นฉบับ แต่ก็มีพัฒนาการให้ติดตาม
- Mel Gibson กับบท Cormac ได้โหด ดิบ บ้า อำนาจ แม้ Mel Gibson จะตกเป็นที่ถกเถียงในแง่ตัวตนจริง แต่ในซีรีส์นี้ เขาสวมบทผู้จัดการโรงแรมที่ปกครองด้วยกำปั้นเหล็กได้อย่างน่ากลัว ความโหดเหี้ยมของเขา ทำให้คนดูเชื่อว่า Winston ต้องลุกขึ้นสู้ มิฉะนั้นจะไม่มีอนาคตใดเหลือให้ใครในโรงแรมนี้
3. แอ็กชันที่ดิบกว่า แต่ยังไม่ถึงระดับ John Wick
แน่นอนว่า The Continental ไม่มีฉากยิงแหลกแบบในหนัง John Wick แต่ฉากต่อสู้ที่มีในซีรีส์นี้เน้น “ความเป็นจริง” มากกว่า “ความเว่อร์” จังหวะการสู้ แม้จะน้อยครั้งกว่า แต่ก็หนักหน่วงและทำหน้าที่ส่งเสริมเรื่องราวได้ดี
4. วิเคราะห์จุดเด่น-จุดที่น่าเสียดายของซีรีส์
จุดเด่น
โปรดักชันย้อนยุคสวยมาก ทั้งฉาก เสื้อผ้า และเพลง
ตัวละครมีแรงขับและเส้นเรื่องชัดเจน โดยเฉพาะ Winston
Mel Gibson มอบความบ้าคลั่งได้แบบที่น่ากลัวจริง
สร้างโลกของ John Wick ยุคก่อนให้มีความน่าสนใจในแบบใหม่
ส่วนจุดที่ยังน่าเสียดายคือ
บางตอนมีจังหวะเนือย โดยเฉพาะตอนที่ 2 ที่เน้นการวางแผนมากกว่าการลงมือ
ความรู้สึก “ห้ามฆ่าในโรงแรม” ยังไม่ถูกเล่นประเด็นมากเท่าที่ควร
ไม่เหมาะกับคนที่หวังจะเห็น John Wick หรือฉากยิงกัน 30 นาทีติด
กระแสตอบรับ
1. กระแสตอบรับจากนักวิจารณ์
Rotten Tomatoes (Critics Score): อยู่ที่ 53% – เสียงรีวิว “ผสมผสาน” มีทั้งฝั่งที่ชมเรื่องโปรดักชัน งานภาพ และความกล้าในการเล่าเรื่องแบบใหม่ กับฝั่งที่มองว่าซีรีส์ยังไม่สามารถส่งต่อจิตวิญญาณความดิบ-เท่ของหนังหลักได้
Metacritic: ได้ 49/100 – จัดอยู่ในระดับ “กลางค่อนไปทางล่าง” นักวิจารณ์จาก The Hollywood Reporter และ Variety ให้ความเห็นว่า “The Continental ดูดีแต่ไม่มีพลังพอจะยืนได้ด้วยตัวเอง”
IGN: ให้ 6/10 – มองว่าเป็นการเล่าตำนานที่น่าสนใจ แต่ยังขาดเสน่ห์เฉพาะของแฟรนไชส์ John Wick
2. กระแสตอบรับจากผู้ชมทั่วไป
IMDb: ได้คะแนน 7.2 / 10 – แฟนหนังจำนวนมากให้เครดิตกับความกล้าในการเล่าเรื่องแบบ “ย้อนอดีต” และชื่นชมงานโปรดักชันสไตล์ 70s แต่หลายคนก็บ่นว่า “มันยังไม่ถึงใจเท่าภาคหนัง”
Reddit / Twitter (X): มีการพูดถึงในหลากหลายประเด็น เช่น
ชื่นชมงานภาพ โลเคชัน และโทนยุค 70s ที่สมจริง
หลายเสียงชื่นชม Charon ฉบับวัยหนุ่ม ว่าเท่มากและน่าสนใจกว่าตัวเอกบางคน
บางแฟนผิดหวังที่ไม่ได้เห็นการเชื่อมโยงกับ High Table หรือ Easter Eggs ที่ลึกกว่านี้
บทสรุป
The Continental เป็นการขยายจักรวาล John Wick ที่กล้าฉีกแนวจากหนังหลัก โดยเลือกเล่าแบบละครย้อนยุคเข้มข้นแทนการเป็นแอ็กชันยิงแหลก ซึ่งเป็นทางเลือกที่ “กล้าและแตกต่าง” ซีรีส์ไม่ได้พยายามเป็นภาคแยกเพื่อขายแฟนเซอร์วิส แต่กลับเลือกจะปูพื้นฐานให้ตัวละคร Winston และสถาบัน The Continental อย่างจริงจัง
The Continental ได้รับคำชมจากหลายด้าน โดยเฉพาะงานสร้างที่โดดเด่น แต่เนื้อหาและการเล่าเรื่องยังไม่แหลมคมพอจะเทียบกับหนังแม่อย่าง John Wick ได้แบบเต็มที่ อย่างไรก็ตาม หลายคนมองว่านี่คือ “ก้าวแรก” ของการปูจักรวาล ที่ถ้าได้รับไฟเขียวต่อ… อาจไปได้ไกลกว่านี้แน่นอน
และหากมีภาคต่อ หรือซีรีส์จากโรงแรมแห่งอื่นในจักรวาลนี้ เช่น ญี่ปุ่น หรือยุโรป… เราขอดูแน่นอน
คะแนนรีวิว: 8/10 – สำหรับคนที่ชอบเรื่องราวโลกใต้ดินของนักฆ่า และต้องการ “เนื้อเรื่องมากกว่ากระสุน”