รีวิวซีรีส์ Resident Playbook (2025) ซีรีส์ที่ไม่เพียงเล่าเรื่อง “การแพทย์” แต่ยังสะท้อน“ชีวิต” ของคนที่เลือกเดินทางสายนี้

รีวิวซีรีส์ Resident Playbook (2025) ซีรีส์ที่ไม่เพียงเล่าเรื่อง “การแพทย์” แต่ยังสะท้อน“ชีวิต” ของคนที่เลือกเดินทางสายนี้

ข้อมูลซีรีส์

  • ชื่อเรื่อง: Resident Playbook (언젠가는 슬기로울 전공의생활)  เพลย์บุ๊คชุดกาวน์
  • ปีที่ฉาย: 2025
  • หมวดหมู่: ดราม่า / การแพทย์ / มิตรภาพ / Slice of life
  • ผู้กำกับ: อีมินซู
  • ผู้เขียนบท: คิมซองฮี
  • จำนวนตอน: 12 ตอน
  • วันออกอากาศ: 12 เมษายน – 18 พฤษภาคม 2025
  • ช่องทางรับชม: tvN (เกาหลีใต้) และ Netflix (บางประเทศ)
  • คะแนน IMDb: 6.7/10

นักแสดงนำ

  • โกยุนจอง รับบท โอยียอง – แพทย์ประจำบ้านปีหนึ่งผู้สงบเสงี่ยมและมีอดีตที่ฝังใจ

  • ชินซีอา รับบท พโยนัมคยอง – แพทย์หญิงสายตรง ซื่อสัตย์ มีอุดมการณ์ชัดเจน

  • ฮันเยจี รับบท คิมซาบี – สายฮา มาพร้อมจังหวะคอมเมดี้แต่ซ่อนความลึกทางอารมณ์

  • คังยูซอก รับบท ออมแจอิล – เพื่อนร่วมรุ่นผู้ร่าเริงแต่ซ่อนแผลใจจากครอบครัว

  • จองจุนวอน รับบท กูโดวอน – รุ่นพี่ผู้แกร่งทั้งฝีมือและใจ แต่เปราะบางในเรื่องรัก

เรื่องย่อ

ภายใต้แสงไฟนีออนของโรงพยาบาลยุลเจ สาขาจงโน แผนกสูติ-นรีเวชกำลังต้อนรับกลุ่มแพทย์ประจำบ้านรุ่นใหม่เข้าสู่สมรภูมิชีวิตจริง ที่ไม่ใช่แค่ห้องผ่าตัดและวิชาการ แต่รวมถึงความเครียดจากการเวรยาว ความสัมพันธ์ที่ซับซ้อน ความสูญเสีย และการรักษาหัวใจของตัวเองในโลกที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน

Resident Playbook ไม่เพียงเล่าเรื่อง “การแพทย์” แต่คือ “ชีวิต” ของคนที่เลือกเดินทางสายนี้—การเติบโตที่เจ็บปวดแต่งดงาม

รีวิว Resident Playbook เพลย์บุ๊คชุดกาวน์ ซีรีส์ Netflix

รีวิวซีรีส์ Resident Playbook (2025) ซีรีส์ที่ไม่เพียงเล่าเรื่อง “การแพทย์” แต่ยังสะท้อน“ชีวิต” ของคนที่เลือกเดินทางสายนี้

1. โทนเรื่องที่แตกต่างจาก Hospital Playlist

แม้จะเป็นภาคแยกของ Hospital Playlist แต่ Resident Playbook เลือกทางเดินของตัวเอง ไม่เน้นเสียงดนตรีหรือบทสนทนาคลายเครียดเหมือนต้นฉบับ แต่พุ่งตรงสู่ดราม่าเชิงลึก ความกดดันของชีวิตแพทย์หน้าใหม่ การตัดสินใจทางจริยธรรม และการอยู่รอดในระบบโรงพยาบาลที่โหดร้ายกว่าที่คิด

2. การออกแบบตัวละครที่มีมิติ

ซีรีส์ให้เวลาในการ “รู้จัก” ตัวละครอย่างค่อยเป็นค่อยไป ไม่เร่งรีบ ไม่ยัดเยียด เราจะเห็นพัฒนาการของแต่ละคนทีละน้อย เช่น การที่โอยียองต้องฝึกใจให้เข้มแข็งเมื่อเจอเคสการคลอดที่ผิดพลาด, หรือพโยนัมคยองที่เริ่มตั้งคำถามต่อระบบการรักษาที่เธอเคยเชื่อ

3. สะท้อนความเป็นจริงในวงการแพทย์

Resident Playbook ไม่โรแมนติกชีวิตแพทย์เหมือนซีรีส์หลายเรื่อง มันพูดถึงความเหนื่อยล้าทางใจ เวรยาว 36 ชั่วโมง ความอ่อนล้าจากผู้ป่วยที่ไม่ยอมรับการรักษา ความเกลียดตัวเองเมื่อรักษาไม่สำเร็จ หรือความรู้สึกผิดที่กลืนกินใจแม้ไม่มีใครตำหนิ

🩶 “เรามาช่วยชีวิตคน แต่บางวันเรารู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะตายก่อนเขา” – คำพูดของตัวละครหนึ่งที่สะท้อนใจคนดูที่สุดในตอนที่ 3

4. เคมีระหว่างนักแสดงดีเกินคาด

แม้หลายคนจะเป็นหน้าใหม่หรือไม่ได้อยู่ในวงการซีรีส์มานาน แต่ทุกคนทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะโกยุนจอง ที่เปลี่ยนภาพจากบทสายบู๊ใน “Moving” มาเป็นแพทย์หญิงที่อ่อนไหวได้อย่างเป็นธรรมชาติ

5. การแทรกคอมเมนต์ทางสังคม

ซีรีส์แอบซ่อนประเด็นสังคมไว้อย่างแยบยล เช่น การที่ผู้หญิงในวงการแพทย์ต้องพยายามเป็น “มากกว่า” เพื่อให้ได้รับการยอมรับ หรือปัญหาการทำงานหนักเกินมนุษย์ของแพทย์ประจำบ้านในระบบสุขภาพของเกาหลีใต้

📈 กระแสตอบรับ

  • เปิดตัวด้วยเรตติ้ง 3.7% และเพิ่มขึ้นเป็น 4.0% ภายในตอนที่ 2

  • ได้รับคำชมจากแฟนซีรีส์ว่า “เป็นซีรีส์แพทย์ที่ไม่ซ้ำซากและกล้าพูดเรื่องจริง”

  • แฟน ๆ ของ Hospital Playlist หลายคนกล่าวว่า “ดูไปน้ำตาคลอไป แม้จะไม่มีเสียงดนตรีเหมือนต้นฉบับก็ตาม”

  • IMDb ให้คะแนน 6.7/10 (ณ เดือนเมษายน 2025) โดยผู้ชมให้คะแนนเฉลี่ยค่อนข้างดีในแง่ของบทและการแสดง

บทส่งท้าย

Resident Playbook (2025) เป็นมากกว่าซีรีส์แพทย์—มันคือไดอารี่ของคนที่ต้องเติบโตในสถานการณ์ที่ไม่เคยพร้อม แม้จะไม่มีฉากหวือหวาหรือไคลแมกซ์แบบซีรีส์ตลาด แต่ทุกตอนคือบทเรียนชีวิตที่สะเทือนใจและสร้างแรงบันดาลใจ

ซีรีส์เรื่องนี้เหมาะกับใครก็ตามที่กำลังเหนื่อยกับชีวิต ต้องการเรื่องราวที่ให้กำลังใจผ่านความเจ็บปวด และอยากเห็นคนธรรมดาต่อสู้เพื่อสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าตัวเอง

คะแนนจากผู้เขียน: ★★★★½ (9/10)

หากคุณชื่นชอบ Hospital Playlist แต่อยากได้เวอร์ชันที่ “จริงจังขึ้น” และ “เจ็บลึกกว่าเดิม” – Resident Playbook คือตัวเลือกที่ไม่ควรพลาดเลยจริง ๆ

Scroll to Top