
ข้อมูลหนัง
- ชื่อซีรีส์: Our Unwritten Seoul (미지의 서울)
- ปีที่ฉาย: 2025
- หมวดหมู่: Coming‑of‑age, โรแมนซ์, ดราม่า, คอมเมดี้
- ผู้กำกับ: Park Shin‑woo (ผลงานก่อนหน้า It’s Okay to Not Be Okay)
- ความยาว: 12 ตอน (ตอนละ ~70 นาที)
- วันเข้าฉาย: 24 พฤษภาคม 2025 (ทางช่อง tvN)
- คะแนน IMDb: ยังไม่มีคะแนนเฉลี่ย แต่มีเรตติ้งแต่ละตอนที่สูง เช่น 9.4/10 สำหรับตอนที่ 4
ตัวอย่าง
เรื่องย่อ
ฝาแฝด Yoo Mi‑ji และ Mi‑rae มีชีวิตที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง — Mi‑ji ทำงานหลากหลายเพื่อดูแลยายในบ้านเกิด ในขณะที่ Mi‑rae ใช้ชีวิตเป็นหญิงอาชีพในกรุงโซล เมื่อการแลกเปลี่ยนชีวิตเสริมสร้างโอกาสให้แต่ละคนได้เรียนรู้ ความผิดหวัง และเส้นทางใหม่ ทุกการตัดสินใจนำพาไปสู่การค้นพบตนเองผ่านสายตาของอีกคน ชีวิตใหม่ในกรุงโซลจึงไม่ใช่แค่เรื่องของเมือง แต่คือการเขียน “ชีวิตของเราเอง” ในเส้นทางที่ไม่เคยแพลนไว้
นักแสดง
Park Bo‑young รับบท Yoo Mi‑ji / Yoo Mi‑rae (พี่น้องฝาแฝด)
Park Jin‑young รับบท Lee Ho‑soo ทนายความ
Ryu Kyung‑soo รับบท Han Se‑jin ผู้ดูแลฟาร์ม
(เพิ่มเติม: Lee Jae‑in, Park Yoon‑ho, Jang Young‑nam, Cha Mi‑kyung, Im Chul‑soo ฯลฯ)



รีวิวซีรีส์ Our Unwritten Seoul (2025) Park Bo‑young กับบทฝาแฝด ก่อนขอพักใจหลังปิดกอง 1 อาทิตย์เต็ม
1. การสวมบทฝาแฝดของ Park Bo‑young
Park Bo‑young โดดเด่นด้วยการสลับบทบาทอันเนียนตา — จาก Mi‑ji ที่อบอุ่น สีสัน และขี้เล่น กลายเป็น Mi‑rae ที่สุขุม สุขมุมนิ่ง และสมบูรณ์แบบ เธอบอกว่าการเล่น 1 คน 2 บทคือ “โอกาสครั้งหนึ่งในชีวิต” และผู้ชมใน Reddit ก็ตกหลุมรักพลังในการถ่ายทอดนี้
“Park Bo-young is such a brilliant actress, the way she perfected different mannerisms for each twin… I couldn’t help getting distracted from the plot.”
แปล: “พัคโบยองเป็นนักแสดงที่เก่งมากจริง ๆ วิธีที่เธอถ่ายทอดบุคลิกต่าง ๆ ของฝาแฝดแต่ละคนได้อย่างสมบูรณ์แบบ… มันทำให้ฉันถึงกับละสายตาจากเนื้อเรื่องเลยทีเดียว”
2. นักแสดงร่วมและการรับบท
แม้ Park Bo‑young จะเป็นหัวใจหลัก แต่ซีรีส์เรื่องนี้ก็แข็งแรงด้วยทีมนักแสดงร่วมคุณภาพ โดยเฉพาะ Park Jin‑young (GOT7) ที่ฉีกภาพไอดอลอย่างหมดจดในบท Lee Ho‑soo — ทนายความหนุ่มผู้มีอดีตที่ยังไม่จบสิ้น เขาเป็นเหมือน “แสงสว่างอ่อนโยน” ในโลกของ Mi‑rae และ “แรงขับเคลื่อนที่ไม่คาดคิด” ในชีวิตของ Mi‑ji
Park Jin‑young ได้รับคำชมในแง่ “อารมณ์ที่สมจริง” และการใช้สายตาสื่อสาร แม้ไม่มีบทพูดยาวมาก เขาให้สัมภาษณ์ใน Netflix Spotlight ว่า เขาทำการบ้านเยอะมากเพื่อเข้าใจว่าทำไม Ho‑soo จึงพูดน้อย แต่คิดมาก
ส่วน Ryu Kyung‑soo ในบท Han Se‑jin ที่ดูเหมือนจะเป็นตัวเสริม แต่กลับกลายเป็น “ตัวพาอารมณ์” สำคัญที่ช่วยให้ Mi‑ji มองเห็นมิติใหม่ของชีวิตในเมืองหลวง ผู้ชมหลายคนใน MyDramaList กล่าวว่าบทของเขา “ดูเล็กแต่ส่งผลกระทบต่อทั้งเรื่อง”
3. บทสนทนา & บทสัมภาษณ์
บทซีรีส์นี้เขียนโดย Lee Kang นักเขียนหน้าใหม่ที่เคยเป็นนักข่าวมาก่อน เขาให้สัมภาษณ์ใน AsianWiki ว่าอยากเล่าเรื่องของ “คนที่ภายนอกดูเข้มแข็ง แต่ภายในเปราะบาง” ซึ่งสะท้อนผ่านทั้ง Mi‑rae และ Mi‑ji ที่ต่างเผชิญกับความโดดเดี่ยวในรูปแบบของตัวเอง
จุดเด่นคือบทพูดที่ “น้อยแต่ลึก” เช่นฉากที่ Mi‑ji ถามว่า
“ฉันผิดไหมที่ไม่อยากยอมแพ้ความฝัน แค่เพราะว่าฉันไม่ได้อยู่ในกรุงโซล?”
ขณะที่แง่มุมการกำกับก็ใช้ แสงและสี ช่วยเน้นอารมณ์ได้ชัดเจน Reddit และ Tumblr หลายกระทู้พูดถึงการใช้ “warm light สำหรับฉากของ Mi‑ji” และ “cool tone ในชีวิตของ Mi‑rae” ซึ่งสื่อให้เห็นว่าแสงในเรื่องนี้ไม่ใช่แค่บรรยากาศ แต่คือภาษาภาพที่บอกเล่าชีวิต
4. คอนทราสต์ชีวิตและโครงสร้างซีรีส์
หัวใจของ Our Unwritten Seoul คือการสำรวจชีวิตที่ไม่ได้ถูกวางแผนไว้ล่วงหน้า ซีรีส์ใช้สูตร “การสลับตัวตน” มาเป็นเครื่องมือในการตั้งคำถามว่า ชีวิตที่ดีต้องเป็นอย่างไร? ความสุขที่แท้จริงอยู่ที่เมืองหลวงหรืออยู่ในตัวเราเอง?
ตัวละครทั้งสองได้เรียนรู้ว่า ชีวิตไม่ได้มีสูตรตายตัว การได้สวมบทบาทในชีวิตของอีกคนทำให้พวกเธอมองเห็นข้อดี-ข้อเสียของกันและกัน และที่สำคัญที่สุดคือ “ให้อภัยตัวเอง” ได้
โครงสร้างซีรีส์ 6 ตอนสั้นกระชับ แต่ลุ่มลึก มีจุดพลิกผันเล็ก ๆ ในทุกตอน ไม่มีดราม่าฟูมฟาย ไม่มีความรักหวือหวา แต่ทุกฉาก ทุกคำพูด มีความหมาย ซึมลึก และจับใจ เป็นซีรีส์ที่ไม่ได้เร้าอารมณ์แบบดราม่าหนัก ๆ แต่ทิ้ง “อารมณ์อุ่นใจแบบระยะยาว” ไว้อย่างนุ่มนวล
Park Bo‑young ขอพักใจ 1 อาทิตย์หลังปิดกอง
ตามที่เธอได้เล่าไว้ในรายการ YouTube “Hal Myung Soo” (ออกอากาศ 30 พฤษภาคม 2025) Park Bo‑young เปิดใจว่า หลังจากถ่ายทำ Our Unwritten Seoul เสร็จสิ้น เธอรู้สึกเหนื่อยล้าจากการแบกรับบทฝาแฝดทั้งสอง พร้อมกับบทบาทที่ลึกซึ้งและเต็มพลังจนเกือบหมดตัว เธอจึงตัดสินใจให้ตัวเอง “หายไปจากโลกภายนอก” เป็นเวลา 1 อาทิตย์เต็ม
เธอระบุว่า MBTI ของเธอคือ ISFP — บุคลิกที่ชอบสงบและชาร์จพลังที่บ้าน — และได้ลั่นวาจากับต้นสังกัดตรงๆ ว่า “ฉันจะหายไป 1 สัปดาห์ จะบล็อกเบอร์คุณ แล้วกลับมาใหม่” โดยพักอยู่บ้าน ดูหนัง-ซีรีส์ และสั่งอาหารถึงที่ เท่านั้น
ข่าวนี้ได้รับความสนใจอย่างมากและกลายเป็นหัวข้อกล่าวถึงโดยสื่อหลายแห่ง ประหนึ่งว่า “เธอเลือกปิดกอง ปิดโทรศัพท์ เพื่อดูแลใจตัวเองก่อนกลับมาเต็มร้อย” — แสดงให้เห็นถึงความไม่ยอมทนต่อความละเลยในเรื่องสุขภาพจิต ทั้งยังสะท้อนความจริงใจและความเป็นมนุษย์ของนักแสดงอันดับหนึ่งของยุคนี้
เหตุผลที่ประเด็นนี้สำคัญต่อซีรีส์
ความลึกของตัวละครฝาแฝด: Park Bo‑young ไม่ได้แค่แสดงสองตัวละคร แต่ “ใช้ชีวิตทั้งสองชีวิต” จนหมดพลัง ซึ่งสะท้อนผ่านการตัดสินใจพักจิตใจหลังปิดกอง — เป็นหลักฐานว่าการแสดงฝาแฝดทั้งสองในเรื่องหนักหนาจริง
การให้เกียรติตัวเอง: เมื่อเหนื่อยล้าและร่างกาย/จิตใจไม่พร้อม การพักฟื้นออกมาอย่างตรงไปตรงมาเช่นนี้ คือพฤติกรรมที่นักแสดงรุ่นต่อไปควรเรียนรู้ — การ “ขอเวลาพัก” ไม่ใช่ความอ่อนแอ แต่คือการรักษาคุณภาพชีวิต
เพิ่มมิติให้แฟนๆ: การเปิดใจถึงด้านที่อ่อนล้าของเธอ ทำให้แฟนคลับภาคภูมิใจและเข้าใจลึกซึ้งยิ่งขึ้น ไม่มีอะไรทำลายภาพลักษณ์ superstar ได้มากเท่ากับการเป็น “คนจริง” ที่ดูแลหัวใจและจิตใจของตัวเอง
กระแสตอบรับ & ความน่าสนใจ
แฟน Netflix ต่างยกให้เป็น “work of genius” และ “favourite show of the year” hellomagazine.com
Decider แนะนำให้ “STREAM IT” เนื่องจากเรื่องราวอบอุ่น หัวใจถึงตัวละคร decider.com
เรตติ้งทางทีวี กำลังเติบโต โดยตอน 6 กวาดเรตติ้งสูงสุด 6.368% (เบื้องต้น)
บทสรุป
Our Unwritten Seoul คือซีรีส์เล็กๆ แต่อัดแน่นด้วยหัวใจ เป็นม้ามืดงานดีที่สมดุลระหว่างโรแมนซ์ ดราม่า และความหวัง Park Bo‑young ยืนยันความสามารถของเธอในบทบาทฝาแฝด การกำกับของ Park Shin‑woo ผสานเข้ากับบทที่เฉียบคมจาก Lee Kang ทำให้เรื่องดูมีชีวิตและอบอุ่น การใช้แสง สี เสียง และการแคสติ้งเสริมอารมณ์ได้เยี่ยม กระแสตอบรับจากแฟนและนักวิจารณ์ถือว่าดีเกินคาด เหมาะสำหรับคนที่มองหาเรื่องราวที่ “เขียนชีวิตใหม่ในโซล” อย่างอบอุ่นและจริงใจ แนะนำครบถ้วนสำหรับคนรัก K‑Drama ปี 2025 ค่ะ