
ข้อมูลซีรีส์
ชื่อเรื่อง: Oh My Ghost Clients (노무사 노무진) ให้ตายเถอะ ลูกความผี
ปีที่ฉาย: 2025
หมวดหมู่: แฟนตาซี, ดราม่า, คอมเมดี้, ลึกลับ
ผู้กำกับ: ยิม ซุนรยอ (Yim Soon-rye)
ผู้เขียนบท: คิม โบทง (Kim Bo-tong), ยู ซึงฮี (Yoo Seung-hee)
ความยาว: 10 ตอน (ประมาณ 70 นาทีต่อตอน)
วันเข้าฉาย: 30 พฤษภาคม 2025 – 28 มิถุนายน 2025 (ทุกวันศุกร์–เสาร์ เวลา 21:50 น. KST ทางช่อง MBC)
คะแนน IMDb: 8.5/10
ตัวอย่างซีรีส์
เรื่องย่อ
หลังจากรอดชีวิตจากอุบัติเหตุร้ายแรง โน มูจิน ทนายแรงงานที่เคยใช้ชีวิตอย่างไร้จุดหมาย ได้รับความสามารถพิเศษในการมองเห็นผี ผีเหล่านี้เป็นวิญญาณของผู้ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุแรงงานและยังมีเรื่องค้างคาใจ มูจินร่วมมือกับนา ฮีจู พี่สะใภ้ที่มีไหวพริบ และโก กยอนอู ครีเอเตอร์วิดีโอที่มีบุคลิกสดใส เพื่อช่วยเหลือวิญญาณเหล่านี้ในการไขคดีและเรียกร้องความยุติธรรม ในขณะที่เผชิญหน้ากับความจริงที่โหดร้ายของสังคมแรงงาน มูจินต้องต่อสู้กับความท้าทายทั้งในโลกวิญญาณและโลกมนุษย์
นักแสดงนำและตัวละครหลัก
จอง คยองโฮ รับบท โน มูจิน – ทนายแรงงานที่สามารถมองเห็นผีได้หลังจากรอดชีวิตจากอุบัติเหตุร้ายแรง
ซอล อินอา รับบท นา ฮีจู – พี่สะใภ้ของมูจิน ผู้มีไหวพริบและทักษะการต่อสู้ที่ยอดเยี่ยม
ชา ฮักยอน (N วง VIXX) รับบท โก กยอนอู – ครีเอเตอร์วิดีโอที่มีบุคลิกสดใสและอารมณ์ขัน
ยู ซอนโฮ รับบท ยุนแจ – ตัวละครสนับสนุนที่มีบทบาทสำคัญในเรื่องราว
ทัง จุนซัง รับบท โบซัล (พระพุทธะ) – ตัวละครลึกลับที่เกี่ยวข้องกับโลกวิญญาณ
คยอง ซูจิน รับบท นา มีจู – ภรรยาที่แยกทางของมูจิน และพี่สาวของฮีจู



รีวิวซีรีส์ Oh My Ghost Clients (2025) เมื่อทนายแรงงานต้องไขคดีผีเพื่อความยุติธรรม งานนี้ทั้งฮาทั้งขนลุก!
1. แนวคิดสร้างสรรค์ของซีรีส์
ไอเดียหลักของซีรีส์นี้เรียกได้ว่า “ฉีกแนว” จากซีรีส์แนวผีทั่วไปที่เราเคยเห็น โดยแทนที่ผีจะมาเพื่อหลอกหลอนหรือคลี่คลายปมรักในอดีต กลับกลายเป็น “แรงงานผู้เสียชีวิต” ที่ยังคงมีเรื่องค้างคาใจจากการถูกเอารัดเอาเปรียบ ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากระบบแรงงาน และไม่มีใครรับฟังเรื่องราวของพวกเขาในโลกคนเป็น
ด้วยพล็อตที่ให้ทนายแรงงานอย่าง “โน มูจิน” กลายเป็นคนที่มีญาณพิเศษมองเห็นผีได้ ซีรีส์จึงตั้งคำถามอย่างลึกซึ้งว่า “ในระบบยุติธรรมปัจจุบัน ใครเป็นเสียงแทนผู้ที่ไม่มีเสียง?” การให้ตัวละครที่ไม่อยากยุ่งเรื่องใคร กลายเป็นผู้แบกภาระในการช่วยเหลือผีเหล่านี้ เปรียบเสมือนการผลักดันให้คนดูหันกลับมาทบทวนบทบาทของเราในสังคม เมื่อเจอเรื่องไม่เป็นธรรม…เราจะเมินเฉย หรือจะลุกขึ้นช่วย?
2. การแสดง: จอง คยองโฮ พิสูจน์ฝีมือแบบนอกกรอบ
ในบท “โน มูจิน” จอง คยองโฮฉีกภาพทนายหนุ่มมาดเนี้ยบแบบในซีรีส์ทั่วไป กลายเป็นชายหนุ่มที่หมดไฟจากระบบกฎหมาย ไร้แรงผลักดัน แต่อยู่ๆ ก็ต้องมาเป็น “ทนายผี” ไม่เต็มใจ ความพิเศษอยู่ที่การค่อยๆ เปลี่ยนแปลงภายในของตัวละคร — จากเย็นชา ไร้อารมณ์ จนเริ่มรู้สึก และ “รับฟัง” วิญญาณที่ต้องการความช่วยเหลือ
ซอล อินอา ในบท “นา ฮีจู” ก็ไม่แพ้กัน คาแรกเตอร์ที่เป็นทั้งนักบู๊ พี่สะใภ้ผู้ไม่ยอมใคร และสายลุยที่คอยช่วยเหลือทีมในภารกิจไขคดีผี เป็นบทบาทที่มีความเท่โดยไม่พึ่งภาพลักษณ์เซ็กซี่หรือหวานจ๋า เพิ่มมิติให้ผู้หญิงในซีรีส์ได้อย่างสมศักดิ์ศรี ขณะเดียวกัน คาแรกเตอร์โก กยอนอูของชา ฮักยอนก็ช่วยปรับอารมณ์ให้เรื่องไม่ตึงเครียดเกินไป เติมความสดใสให้กลมกล่อม
3. ความแฟนตาซีลึกลับปนคอมเมดี้ที่ไม่หลุดโฟกัสของโทนเรื่อง
ซีรีส์เล่นกับความหม่นของโลกคนตาย และความบ้าบอในโลกคนเป็นได้อย่างลงตัว ในแต่ละตอน ผู้ชมจะได้เห็นทั้งฉากที่บีบหัวใจจากเรื่องจริง เช่น การตายเพราะระบบโรงงานที่ไร้มาตรฐานความปลอดภัย หรือแรงงานต่างชาติที่ไม่มีใครเหลียวแล และฉากเบาๆ อย่างการแย่งอาหาร การเถียงกันของตัวละครในทีม ที่ช่วยลดความตึงเครียด
ความสามารถของบทซีรีส์คือ “รู้ว่าเมื่อไหร่ควรจริงจัง และเมื่อไหร่ควรปล่อยวาง” ทำให้ผู้ชมอินกับประเด็นสังคมโดยไม่รู้สึกว่ากำลังถูกเทศนา โทนเรื่องยังรักษาสมดุลแฟนตาซีได้ดี โดยไม่ปล่อยให้หลุดไปเป็นแนวผีหลอนหรือแฟนตาซีเวอร์วังเกินจริง
4. คดีแรงงานที่ถูกลืม
แต่ละคดีที่ผีมา “จ้าง” โน มูจิน ล้วนมีพื้นฐานมาจากเหตุการณ์แรงงานที่สะเทือนใจในสังคมจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นคนขับรถส่งของที่เสียชีวิตเพราะไม่มีประกัน คนงานโรงงานที่ถูกบังคับทำงานล่วงเวลาโดยไม่ได้รับค่าจ้าง หรือแรงงานหญิงที่ถูกคุกคามทางเพศแล้วไม่มีที่พึ่ง
ซีรีส์ไม่แต่งเติมจนเกินจริง แต่ใช้ “เสียงของความตาย” เพื่อขับเคลื่อนประเด็น ทำให้คนดูเจ็บแบบเงียบๆ โดยเฉพาะคนที่ไม่เคยรู้ว่าปัญหาเหล่านี้หนักหนาขนาดไหน มันเป็นการสะกิดให้รู้ว่า “แค่การรับฟัง” ก็มีพลังมากพอจะช่วยเหลือใครบางคนได้แล้ว
5. การกำกับ & โปรดักชัน: ลงดีเทลแต่ไม่เยิ่นเย้อ
ยิม ซุนรยอ ผู้กำกับหญิงเจ้าของผลงานหลากหลายแนวในเกาหลีใต้ พาเรื่องนี้ไปในโทน “เรียบแต่แรง” การจัดแสงแบบหม่นผสมไฮไลต์สะท้อนโลก 2 ใบ – คนเป็นกับคนตาย – อย่างลงตัว ฉากที่ผีปรากฏตัวไม่ได้ใช้ CG โฉ่งฉ่าง แต่เน้นความเงียบ ความเย็น ความรู้สึกตกค้าง ที่ปล่อยให้คนดูสัมผัสได้เอง
จังหวะการเล่าเรื่องมีจุดหยุดหายใจที่ดี ไม่เนิบ แต่ก็ไม่เร่งรีบเกินไป รายละเอียดบางอย่าง เช่น การใช้ชื่อวิญญาณ การจดบันทึกของมูจิน หรือแม้กระทั่งวิธีที่ผีเล่าเรื่องราว ล้วนสื่อถึง “ความเป็นมนุษย์” ที่ยังเหลืออยู่แม้ในโลกหลังความตาย
บทส่งท้าย
Oh My Ghost Clients ไม่ใช่แค่ซีรีส์ผี แต่มันคือการตั้งคำถามถึงโครงสร้างสังคมที่หลอกหลอนแรงงานแม้พวกเขาจะจากโลกนี้ไปแล้ว ซีรีส์นี้ฉลาดในเชิงเนื้อหา มีหัวใจที่ใหญ่พอจะ “ฟังเสียงที่คนส่วนใหญ่ไม่อยากฟัง” และเลือกใช้ความแฟนตาซีเป็นเครื่องมือในการขุดความจริงที่ถูกฝังไว้ใต้พรมอย่างแยบยล
หากคุณกำลังมองหาซีรีส์ที่มีความสนุก ผสมความรู้สึกบาดลึก มีมิติทั้งด้านอารมณ์และสังคม Oh My Ghost Clients คือคำตอบที่พาคุณฟังเสียงของ “ลูกความจากโลกหน้า” ที่ไม่มีใครยอมรับฟังมาก่อน

ลลิน อัครเศรษฐ์
ผู้เขียน