
ข้อมูลหนัง
- ชื่อหนัง: Alice in Borderland (อลิสในแดนมรณะ)
- ปีที่ฉาย: 2020
- หมวดหมู่: แอ็กชัน, ผจญภัย, ระทึกขวัญ, ไซไฟ
- ผู้กำกับ: ชินสุเกะ ซาโตะ (Shinsuke Sato)
- ความยาว: 8 ตอน (ต่อซีซัน)
- วันเข้าฉาย: 10 ธันวาคม 2020
- คะแนน IMDb: 7.7/10
นักแสดง
- เคนโตะ ยามาซากิ (Kento Yamazaki) รับบท เรียวเฮ อาริสึ
- ทาโอะ ซึจิยะ (Tao Tsuchiya) รับบท อุซางิ
- นิจิโระ มุราคามิ (Nijiro Murakami) รับบท ชิซึยะ
- อายากะ มิโยชิ (Ayaka Miyoshi) รับบท อัน
- โทโมฮิสะ ยามาชิตะ (Tomohisa Yamashita) รับบท คิวมะ (ปรากฏตัวภายหลัง)
เรื่องย่อ
Alice in Borderland เล่าเรื่องราวของ อาริสึ เรียวเฮ (Arisu Ryohei) ชายหนุ่มว่างงานที่ติดเกมและใช้ชีวิตไปวัน ๆ พร้อมกับเพื่อนสนิทอีกสองคน คารุเบะ (Karube) และ โชตะ (Chota) วันหนึ่ง พวกเขาพบว่าตัวเองถูกดึงเข้าสู่โลกคู่ขนานที่เป็นโตเกียวร้าง ไม่มีผู้คนและไม่มีทางออก
ในโลกแห่งนี้ ทุกคนต้องเล่น “เกมแห่งความตาย” เพื่อเอาชีวิตรอด เกมเหล่านี้มีระดับความยากแตกต่างกันไป และถูกแบ่งออกเป็น 4 ประเภทตามหน้าไพ่ที่ใช้เป็นตัวกำหนด ได้แก่
- โพดำ (Spades): เกมที่ใช้กำลังและทักษะทางกายภาพ
- ข้าวหลามตัด (Diamonds): เกมที่ต้องใช้ไหวพริบและตรรกะ
- โพแดง (Hearts): เกมที่เล่นกับจิตใจและความเชื่อใจ
- ดอกจิก (Clubs): เกมที่ต้องใช้ความร่วมมือเป็นทีม
อาริสึและเพื่อนต้องเผชิญกับเกมที่โหดร้ายขึ้นเรื่อย ๆ จนในที่สุด เขาก็ต้องสูญเสียเพื่อนสนิททั้งสองไปในเกม “Seven of Hearts” ซึ่งเป็นเกมจิตวิทยาที่บีบบังคับให้ผู้เล่นต้องหักหลังกันเพื่อความอยู่รอด ความสูญเสียครั้งนี้กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของอาริสึ
ไม่นานเขาได้พบกับ อุซางิ (Usagi) หญิงสาวนักปีนเขาผู้แข็งแกร่ง ทั้งสองร่วมมือกันเพื่อเอาตัวรอดและค้นหาความจริงของ Borderland พวกเขาเดินทางไปยัง “The Beach” องค์กรที่รวบรวมผู้เล่นจำนวนมากและพยายามเก็บสะสมไพ่ให้ครบเพื่อหาทางออกจากโลกนี้ แต่ความจริงของ The Beach กลับเต็มไปด้วยการเมืองและความขัดแย้ง
เรื่องราวดำเนินไปจนถึง “เกม Witch Hunt” ที่บังคับให้ทุกคนต้องตามหาตัว “แม่มด” เพื่อนำร่างของเธอไปเผาไฟ มิฉะนั้นพวกเขาจะถูกฆ่าทิ้งทั้งหมด เกมนี้กลายเป็นศึกนองเลือดที่เปิดเผยความโหดร้ายของมนุษย์ภายใต้สถานการณ์กดดัน
ตัวอย่าง Alice in Borderland (2020)
รีวิวเจาะลึก Alice in Borderland อลิสในแดนมรณะ Season 1 (2020)
1. งานภาพและการกำกับที่โดดเด่น
หนึ่งในจุดแข็งของ Alice in Borderland คือ งานภาพและการกำกับ ที่ทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ชินสุเกะ ซาโตะ (Shinsuke Sato) ผู้กำกับมากฝีมือที่เคยสร้างผลงานอย่าง Bleach (2018) และ Kingdom (2019) ได้นำเสนอโลกของโตเกียวร้างได้อย่างสมจริง ฉากเมืองโตเกียวที่ไม่มีผู้คนให้บรรยากาศของความเงียบสงัดและความสิ้นหวัง ช่วยเพิ่มความกดดันให้กับตัวละครและผู้ชม
นอกจากนี้ ซีรีส์ยังใช้ CGI ในการสร้างสภาพแวดล้อมได้อย่างไร้ที่ติ ฉากสถานที่สำคัญ เช่น ชิบูย่า (Shibuya) ที่กลายเป็นเมืองร้าง ทำออกมาได้เนียนตา และช่วยให้ผู้ชมรู้สึกว่าตัวละครกำลังอยู่ในโลกคู่ขนานจริง ๆ
2. การเล่าเรื่องที่เข้มข้นและลึกลับ
Alice in Borderland เปิดเรื่องด้วยปริศนาที่ทำให้ผู้ชมสงสัยและต้องการหาคำตอบตลอดเวลา ซีรีส์ดำเนินเรื่องรวดเร็วและมีจุดหักมุมให้ติดตามอย่างต่อเนื่อง
จุดแข็งของบทคือ การออกแบบเกมแต่ละเกมที่มีความสร้างสรรค์และโหดร้ายในแบบที่แตกต่างกัน เกมถูกแบ่งเป็น 4 ประเภท ซึ่งส่งผลต่อลักษณะของเกมและวิธีการเล่น
- โพแดง (Hearts) → เกมจิตวิทยาที่เล่นกับอารมณ์และความไว้วางใจ
- ข้าวหลามตัด (Diamonds) → เกมที่ต้องใช้ตรรกะและไหวพริบ
- โพดำ (Spades) → เกมที่เน้นการเอาตัวรอดทางกายภาพ
- ดอกจิก (Clubs) → เกมที่ต้องอาศัยความร่วมมือของผู้เล่น
เกมที่เป็น ไพ่โพแดง เป็นจุดที่ซีรีส์ฉายให้เห็นความโหดร้ายของมนุษย์มากที่สุด เช่น เกม “Witch Hunt” ในตอนท้ายของซีซัน ที่บังคับให้ผู้เล่นต้องเผชิญหน้ากับด้านมืดของตัวเอง
3. ตัวละครและการแสดงที่ทรงพลัง
นักแสดงหลักทุกคนถ่ายทอดบทบาทออกมาได้อย่างสมจริงและน่าจดจำ
เคนโตะ ยามาซากิ (Kento Yamazaki) รับบท อาริสึ
→ จากเด็กติดเกมที่ไร้จุดหมาย สู่นักเอาตัวรอดที่ใช้สมองเป็นอาวุธ
→ เขาแสดงให้เห็นถึงพัฒนาการของตัวละครที่ค่อย ๆ แข็งแกร่งขึ้นทาโอะ ซึจิยะ (Tao Tsuchiya) รับบท อุซางิ
→ ตัวละครหญิงแกร่งที่มีความสามารถด้านกายภาพสูง
→ ทาโอะสามารถแสดงฉากแอ็กชันออกมาได้อย่างสมจริงนิจิโระ มุราคามิ (Nijiro Murakami) รับบท ชิซึยะ
→ ตัวละครที่ฉลาดและเยือกเย็น เป็นเหมือนผู้ช่วยของอาริสึ
→ เขามีบทบาทสำคัญในช่วงท้ายของซีซันริสะ นากาโอะ (Riisa Naka) รับบท มิรา
→ ตัวละครปริศนาที่ดูเหมือนจะมีบทบาทสำคัญในเกมและโลกนี้
ทุกตัวละครมีมิติและแรงจูงใจที่ชัดเจน ทำให้ผู้ชมรู้สึกอินไปกับแต่ละตัวละคร และสงสัยว่าพวกเขาจะรอดไปได้อย่างไร
4. ฉากที่น่าจดจำ
ซีรีส์เต็มไปด้วย ฉากที่ทั้งระทึกและสะเทือนอารมณ์ ยกตัวอย่างเช่น
- ฉากชิบูย่าร้าง ในตอนแรก → เป็นจุดเริ่มต้นที่ดึงผู้ชมเข้าสู่โลกของ Alice in Borderland
- เกม “Dead or Alive” → เกมแรกที่อาริสึและเพื่อนต้องเผชิญ พวกเขาต้องเลือกประตูที่ถูกต้องก่อนที่ห้องจะระเบิด
- เกม “Tag” ที่ตึกร้าง → ฉากที่มีการต่อสู้กับ “ผู้ไล่ล่า” ที่ถือปืนกล เป็นฉากที่สร้างความกดดันและตื่นเต้นมาก
- เกม Witch Hunt → หนึ่งในเกมที่โหดร้ายที่สุดในซีซัน 1 ที่ผู้เล่นต้องตามล่าตัว “แม่มด” เพื่อเผาร่างของเธอในกองไฟ
5. ธีมและประเด็นที่แฝงอยู่ในเรื่อง
นอกจากความตื่นเต้นจากเกมและฉากแอ็กชันแล้ว Alice in Borderland ยังแฝงประเด็นที่น่าสนใจเกี่ยวกับมนุษย์และการเอาตัวรอด
- เกมเป็นการสะท้อนสังคม → ในโลกของ Alice in Borderland คนที่อ่อนแอมักจะถูกกำจัด ขณะที่คนที่โหดเหี้ยมและฉลาดจะมีโอกาสรอด
- คำถามเกี่ยวกับศีลธรรม → หลายเกมบีบบังคับให้ตัวละครต้องเลือกว่าจะ “หักหลัง” หรือ “เสียสละ” เพื่อให้ตัวเองรอด
- การใช้ชีวิตอย่างมีเป้าหมาย → อาริสึเริ่มต้นจากการเป็นคนไร้จุดหมาย แต่สุดท้ายเขากลายเป็นผู้นำที่ต้องหาคำตอบเกี่ยวกับโลกนี้
จุดแข็งและจุดอ่อนของซีรีส์
จุดแข็งของ Alice in Borderland Season 1
- งานภาพและโปรดักชันระดับฮอลลีวูด
- ฉากแอ็กชันทำได้ดีและสมจริง
- บทฉลาด เกมมีความสร้างสรรค์และคาดเดาไม่ได้
- ตัวละครมีพัฒนาการและไม่เป็นเพียงตัวประกอบ
ส่วนจุดอ่อนหรือข้อเสียของ Alice in Borderland Season 1 คือมีบางช่วงที่ดำเนินเรื่องช้าเกินไปและตัวละครบางตัวอาจถูกตัดออกไปเร็วเกินไป ทำให้ขาดความลึกซึ้ง
สรุปการรีวิว Alice in Borderland Season 1 (2020)
Alice in Borderland Season 1 เป็นซีรีส์แนวเอาตัวรอดที่ทำออกมาได้อย่างดีเยี่ยม ทั้งในแง่ของการเล่าเรื่อง งานภาพ และการออกแบบเกม ซีรีส์สามารถสร้างบรรยากาศที่ตึงเครียดและกดดันได้ตลอดเวลา พร้อมทั้งแฝงประเด็นเกี่ยวกับมนุษย์และการเอาตัวรอดได้อย่างชาญฉลาด
เหมาะสำหรับคนที่ชอบซีรีส์แนวเอาตัวรอดแบบ Squid Game หรือ The Hunger Games หากคุณกำลังมองหาซีรีส์ที่เต็มไปด้วยแอ็กชันและปริศนา Alice in Borderland คือซีรีส์ที่ไม่ควรพลาด!